คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 79/2542

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คดีก่อนโจทก์ฟ้องจำเลยที่ 1 ว่าจำเลยที่ 1 นำเจ้าพนักงานรังวัดออกโฉนดที่ดินเลขที่ 8430 ทับที่ดินพิพาทของโจทก์ และศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่าที่ดินพิพาทเป็นของโจทก์แต่โจทก์ไม่ได้ฟ้องขอให้เพิกถอนโฉนดกลับขอให้จำเลยที่ 1 โอนกรรมสิทธิ์ที่ดิน จึงบังคับตามคำขอไม่ได้ พิพากษายกฟ้องและคดีถึงที่สุดแล้ว คดีนี้โจทก์ฟ้องจำเลยที่ 1 อีกแม้คำขอท้ายฟ้องจะขอให้ห้ามจำเลยที่ 1 มิให้เข้ามายุ่งเกี่ยวกับที่ดินพิพาทของโจทก์ตลอดไปก็ตามแต่ตามคำฟ้องก็ไม่ปรากฏว่าจำเลยที่ 1 ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับที่ดินพิพาทอีกภายหลังจากศาลชั้นต้นวินิจฉัยคดีก่อนแล้ว การที่โจทก์ขอให้ห้ามจำเลยที่ 1 มิให้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับที่ดินพิพาท ก็ต้องพิสูจน์ให้ได้ว่าที่ดินพิพาทเป็นของโจทก์ จึงเป็นประเด็นที่ต้องวินิจฉัยโดยอาศัยเหตุอย่างเดียวกันกับคดีก่อน คดีเกี่ยวกับจำเลยที่ 1 จึงเป็นฟ้องซ้ำกับคดีก่อนต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 148 จำเลยที่ 2 ในฐานะผู้ว่าราชการจังหวัดซึ่งเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจสั่งเพิกถอนโฉนดที่ดินที่ได้ออกโดยคลาดเคลื่อนหรือไม่ชอบด้วยกฎหมายในเขตจังหวัดตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 61(2) การเพิกถอนโฉนดที่ดินพิพาทจึงอยู่ในอำนาจหน้าที่ของจำเลยที่ 2เมื่อโจทก์มีหนังสือร้องขอให้จำเลยที่ 2 ในฐานะพนักงานเจ้าหน้าที่สั่งเพิกถอนโฉนดที่ดินที่ออกทับที่ดินพิพาทของโจทก์ แต่จำเลยที่ 2ไม่ดำเนินการให้ย่อมถือได้ว่าสิทธิของโจทก์ถูกจำเลยที่ 2 โต้แย้งแล้วโจทก์จึงมีอำนาจฟ้องจำเลยที่ 2

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 1 นำเจ้าพนักงานรังวัดออกโฉนดที่ดินเลขที่ 8430ตำบลท่ามะขาม จังหวัดกาญจนบุรี ทับที่ดินมือเปล่าของโจทก์ทั้งแปลงโดยทุจริต โจทก์จึงฟ้องจำเลยที่ 1 และศาลชั้นต้นได้วินิจฉัยว่าที่ดินแปลงดังกล่าวเป็นของโจทก์ตามคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ 1256/2537 ของศาลชั้นต้น ต่อมาโจทก์ยื่นเรื่องราวขอให้จำเลยที่ 2 ในฐานะผู้ว่าราชการจังหวัดซึ่งเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจเพิกถอนโฉนดที่ดินตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 61(2) เพิกถอนโฉนดที่ดินเลขที่ 8430 ที่ออกทับที่ดินของโจทก์ดังกล่าวแต่จำเลยที่ 2 เพิกเฉย จำเลยที่ 3 เป็นนิติบุคคลผู้มีอำนาจควบคุมดูแลการปฏิบัติหน้าที่ของจำเลยที่ 2 ให้เป็นไปตามประมวลกฎหมายที่ดินจึงต้องร่วมรับผิดต่อการกระทำของจำเลยที่ 2 ด้วย ขอให้บังคับจำเลยที่ 2 และที่ 3ร่วมกันเพิกถอนโฉนดที่ดินเลขที่ 8430 ตำบลท่ามะขาม อำเภอเมืองกาญจนบุรี จังหวัดกาญจนบุรี หากไม่ปฏิบัติตามให้ถือเอาคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนาของจำเลยที่ 2 และที่ 3 และห้ามจำเลยที่ 1 มิให้เข้ามายุ่งเกี่ยวกับที่ดินของโจทก์ตลอดไป

Share