แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
คำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลแรงงานจะอุทธรณ์ได้เฉพาะในข้อกฎหมายไปยังศาลฎีกาภายในกำหนด 15 วัน นับแต่วันที่ได้อ่านคำพิพากษาหรือคำสั่งนั้น ตาม พ.ร.บ.จัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ.2522 มาตรา 54 วรรคหนึ่ง ทั้งการอุทธรณ์นั้นจะต้องทำเป็นหนังสือยื่นต่อศาลแรงงานซึ่งมีคำพิพากษาหรือคำสั่งตามมาตรา 54 วรรคสองอีกด้วย โจทก์นำอุทธรณ์มายื่นต่อศาลฎีกาโดยตรง มิได้ยื่นต่อศาลแรงงานกลางซึ่งเป็นศาลแรงงานที่มีคำสั่งจึงไม่ชอบ
ย่อยาว
คดีสืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยจ่ายสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า 11,460 บาท และค่านายหน้าจากการยึดรถย้อนหลังขึ้นไป 36 วัน เป็นเงิน 10,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันฟ้อง ค่าชดเชย 57,300 บาท และค่านายหน้าจากการยึดรถย้อนหลังขึ้นไป 180 วัน เป็นเงิน 140,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 15 ต่อปี นับแต่วันฟ้องค่าเสียหายจากการเลิกจ้างไม่เป็นธรรม 709,208 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันฟ้องและเงินสมทบของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพส่วนของจำเลย 49,078 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันเลิกจ้างเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
ศาลแรงงานกลางพิพากษาให้จำเลยจ่ายค่านายหน้าจากการยึดรถ 100,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันที่ 30 มกราคม 2544 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
โจทก์อุทธรณ์ ศาลแรงงานกลางมีคำสั่งรับอุทธรณ์โจทก์เฉพาะข้อ 2.1, 2.2 และข้อ 3 ส่วนอุทธรณ์โจทก์ข้ออื่น ๆ ไม่รับ
โจทก์ยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งไม่รับอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาพิจารณาแล้วทำคำสั่งคำร้องส่งไปให้ศาลแรงงานกลางนัดคู่ความมาฟังคำสั่ง
ศาลแรงงานกลางนัดคู่ความมาฟังคำสั่งคำร้องวันที่ 10 มีนาคม 2551 โจทก์ยื่นคำร้องฉบับลงวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2551 ขอให้ศาลแรงงานกลางงดหรือเลื่อนการอ่านคำสั่งคำร้องไปก่อนเนื่องจากโจทก์ประสงค์จะอ้างคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 4 ในส่วนของคดีอาญาต่อศาลเพื่อประกอบการวินิจฉัย เมื่อถึงวันนัดเสมียนทนายจำเลยมาศาล ส่วนโจทก์ทราบนัดโดยชอบแล้วไม่มา ศาลแรงงานกลางมีคำสั่งคำร้องขอเลื่อนการอ่านคำสั่งคำร้องของโจทก์ฉบับวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2551 ว่า กรณียังไม่มีเหตุจะเลื่อนการอ่านให้ยกคำร้อง และได้อ่านคำสั่งคำร้องของศาลฎีกาให้คู่ความที่มาศาลฟังโดยให้ถือว่าคู่ความที่ไม่มาฟังได้ทราบผลคำสั่งคำร้องแล้ว
โจทก์อุทธรณ์คำสั่งของศาลแรงงานกลางที่ไม่งดหรือเลื่อนการอ่านคำสั่งคำร้อง โดยนำอุทธรณ์มายื่นต่อศาลฎีกาวันที่ 7 กรกฎาคม 2551
ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า “เห็นว่า คำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลแรงงานจะอุทธรณ์ได้เฉพาะในข้อกฎหมายไปยังศาลฎีกาภายในกำหนด 15 วัน นับแต่วันที่ได้อ่านคำพิพากษาหรือคำสั่งนั้น ตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ.2522 มาตรา 54 วรรคหนึ่ง ทั้งการอุทธรณ์นั้นจะต้องทำเป็นหนังสือยื่นต่อศาลแรงงานซึ่งมีคำพิพากษาหรือคำสั่งตามมาตรา 54 วรรคสองอีกด้วย โจทก์นำอุทธรณ์มายื่นต่อศาลฎีกาโดยตรงมิได้ยื่นต่อศาลแรงงานกลางซึ่งเป็นศาลแรงงานที่มีคำสั่ง ทั้งยื่นอุทธรณ์หลังจากที่ศาลแรงงานกลางมีคำสั่งแล้วถึงเกือบ 4 เดือน เกินกำหนดระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดไว้ จึงเป็นการยื่นอุทธรณ์ที่ไม่ชอบ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย”
พิพากษายกอุทธรณ์ของโจทก์