คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 789/2498

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ในการพิพากษาคดีแพ่งที่เกี่ยวเนื่องกับคดีอาญาศาลจำต้องถือข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในคำพิพากษาคดีส่วนอาญาเฉพาะที่เป็นประเด็นโดยตรงในคดีอาญานั้นเท่านั้น

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยแย่งกรรมสิทธิ์ที่ดินของโจทก์ซึ่งโจทก์ได้มาโดยมารดาโจทก์ที่ 2 ยกให้

จำเลยต่อสู้ว่าที่ดินเป็นของจำเลยได้รับมรดกมาจากมารดาโจทก์ที่ 1 เป็นตาจำเลยเคยหาว่าจำเลยลักข้าวในนาพิพาทอัยการฟ้องจำเลยหาว่าลักทรัพย์ ศาลพิพากษาว่านาและข้าวเป็นของจำเลย ให้ยกฟ้อง คดีถึงที่สุดแล้วตามคดีอาญาเลขแดงที่151/2496

ศาลชั้นต้นงดสืบพยานแล้ววินิจฉัยว่าคดีนี้เกี่ยวเนื่องกับคดีอาญาเลขแดงที่ 151/2496 เพราะทรัพย์ที่พิพาทอันเดียวกันและการวินิจฉัยก็อาศัยเหตุอย่างเดียวกัน ศาลต้องถือข้อเท็จจริงในคดีอาญานั้นว่าที่พิพาทเป็นของจำเลยพิพากษาให้ยกฟ้องโจทก์

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์เห็นว่าคำพิพากษาในคดีอาญาไม่ผูกมัดโจทก์ในคดีนี้พิพากษาให้ยกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ดำเนินการพิจารณาต่อไป

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่าข้อเท็จจริงในคดีอาญาที่ศาลจำต้องถือตามดังบัญญัติไว้ใน ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 46 นั้นต้องเป็นข้อเท็จจริงที่เป็นประเด็นโดยตรงในคำพิพากษาคดีอาญาแต่คดีอาญานี้ไม่มีประเด็นไปถึงว่าที่ดินเป็นของใคร จึงเอามาผูกมัดโจทก์ในคดีแพ่งไม่ได้พิพากษายืน

Share