แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
คนต่างด้าวซึ่งมีใบสำคัญประจำตัว แต่ว่าขาดอายุแล้วนั้น ไม่จำต้องนำใบสำคัญที่ใช้ไม่ได้นั้นติดตัวไปไว้เพื่อแสดงต่อเจ้าพนักงานตาม ม. 17 ด้วย
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยกระทำผิดฐานไม่ต่ออายุใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าว และฐานไม่มีใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวไว้แสดงต่อเจ้าพนักงาน ศาลชั้นต้นลงโทษจำเลยทั้งสองกะทงโจทก์ฝ่ายเดียวอุทธรณ์ + ศาลอุทธรณ์พิพากษา+ โจทก์และจำเลยฎีกาต่อมาศาลฎีกาย่อมมีอำนาจพิพากษาให้ยกฟ้องโจทก์ในกะทงความผิดไม่มีใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวไว้แสดงต่อเจ้าพนักงานด้วยได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยเป็นคนต่างด้าว เคยมีใบสำคัญประจำตัว จำเลยละเลยไม่ต่ออายุใบสำคัญเป็นเวลา ๓ ปีแล้ว และเมื่อวันที่ ๑๑ มิถุนายน ๙๗ จำเลยไม่มีใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวติดตัวไปเพื่อแสดงต่อเจ้าพนักงาน ขอให้ลงโทษ
จำเลยรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยผิดฐานไม่ต่ออายุใบสำคัญ ๑ ปี ปรับ + บาท และฐานแสดงใบสำคัญให้เจ้าพนักงานดูไม่ได้ ปรับ ๕๐ บาท รวมลงโทษเมื่อลดกึ่งหนึ่งเหลือ ๕๐ บาท
โจทก์ฝ่ายเดียวอุทธรณ์ขอให้ลงโทษฐานไม่ต่ออายุใบสำคัญเป็นรายปี ๓ ปี
ศาลอุทธรณ์เห็นว่าจำเลยขาดต่ออายุ ๒ ปี ต้องปรับเป็นรายปีพิพากษาแก้ให้ปรับปีละ ๒๕๐ บาท รวมกับฐานแสดงใบสำคัญให้เจ้าพนักงานดูไม่ได้ปรับ ๕๕๐ บาท ลดกึ่งหนึ่งเหลือ ๒๗๕ บาทแต่ผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์นายหนึ่งมีความเห็นแย้งว่าจำเลยไม่ผิดทั้งสองกะทง ควรยกฟ้อง
โจทก์และจำเลยฎีกา โจทก์ขอให้ลงโทษรายปี ๓ ปี จำเลยขอให้ยกฟ้องตามความเห็นแย้ง
ศาลฎีกาเห็นว่าลงโทษจำเลยฐานไม่ต่ออายุใบสำคัญได้เพียงปีเดียวนอกนั้นขาดอายุความแล้ว (อ้างฎีกาที่ ๙๔๒/๒๔๙๘) ส่วนปัญหาเรื่องจำเลยไม่มีใบสำคัญติดตัวไปตาม พ.ร.บ.การทะเบียนคนต่างด้าว พ.ศ. ๒๔๙๓ ม.๑๗ นั้น เห็นว่าตามมาตรานี้มุ่งหมายเฉพาะคนต่างด้าวซึ่งมีใบสำคัญประจำตัวอันถูกต้องเท่านั้นจะต้องมีใบสำคัญติดตัวไปด้วยไม่บังคับถึงผู้ที่ไม่ได้ต่ออายุใบสำคัญเป็นผิดอยู่แล้วอีกด้วย การที่ศาลลงโทษจำเลยโดยไม่ถูกต้อง แม้จำเลยจะมิได้อุทธรณ์มาก็ดี ศาลฎีกาก็มีอำนาจวินิจฉัยให้ถูกต้องได้ พิพากษาแก้ให้ปรับจำเลย ๒๕๐ บาทลดกึ่งหนึ่งเหลือ ๑๒๕ บาท ข้อหาอื่นให้ยกเสีย