แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ข้อจำกัดอำนาจของตัวแทนไม่ให้ตัวแทนกู้ยืมเงินได้นั้นเป็นการภายในระหว่างตัวการกับตัวแทนถ้าบุคคลภายนอกไม่รู้ถึงข้อจำกัดดังกล่าวตัวการย่อมไม่พ้นความรับผิด
ที่ตัวแทนต้องรับผิดในเมื่อตัวการอยู่ต่างประเทศนั้นเป็นการเพิ่มความรับผิดให้แก่ตัวแทน หาได้หมายความว่าตัวการหมดความรับผิดไม่
การฟ้องเรียกหนี้ตามเช็คที่ออกให้โดยตัวแทน เพื่อชำระหนี้เงินที่ตัวแทนได้รับจากโจทก์ไปใช้ในกิจการของตัวการนั้น ไม่ใช่การฟ้องเรียกเงินตามเช็คโดยเฉพาะเพราะฉะนั้น จึงต้องบังคับตามกฎหมายว่าด้วยตัวการตัวแทนไม่ใช่บังคับตามกฎหมายว่าด้วยตั๋วเงิน
ย่อยาว
คดีได้ความตามทางพิจารณาชั้นศาลฎีกาว่าจำเลยที่ 1 เป็นเจ้าของโรงแรมอัญอัญโฮเต็ล จำเลยที่ 2 ได้รับมอบอำนาจให้เป็นตัวแทนและเป็นผู้จัดการโรงแรม มีอำนาจลงนามในเช็คเบิกจ่ายเงินในนามของโรงแรม จำเลยที่ 1 มีภูมิลำเนาอยู่ต่างประเทศ
จำเลยที่ 2 ได้ออกเช็ค 9 ฉบับและประทับตราของโรงแรมให้โจทก์เพื่อชำระหนี้ จำเลยที่ 2 พ้นจากหน้าที่ผู้จัดการเมื่อวันที่ 29 เมษายน 2496 ปรากฏว่าเช็คบางฉบับลงวันที่ภายหลังที่จำเลยพ้นหน้าที่แล้ว แต่โจทก์สืบได้ว่าเป็นเช็คออกขณะที่จำเลยยังเป็นผู้จัดการ หากลงวันล่วงหน้าไว้ และโจทก์สืบได้ว่าหนี้ตามเช็คนี้เป็นหนี้ที่จำเลยที่ 2 ยืมไปเพื่อใช้จ่ายปรับปรุงโรงแรม
ธนาคารไม่ยอมจ่ายเงินตามเช็คให้โจทก์ อ้างว่าปิดบัญชีเงินฝากของโรงแรมจำเลยเสียแล้ว โจทก์จึงฟ้องขอให้จำเลยทั้งสองร่วมกันรับผิด
ศาลแพ่งพิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันใช้เงิน 52,825 บาท แก่โจทก์
จำเลยที่ 1 อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยที่ 1 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยฎีกาของจำเลยที่ 1 ไว้ดังนี้
1. ที่จำเลยที่ 1 ฎีกาว่า ใบมอบอำนาจมีข้อความจำกัดอำนาจจำเลยที่ 2 ไว้ว่าจะทำการกู้ยืมเงินไม่ได้ จำเลยที่ 2 จึงไม่มีอำนาจออกเช็ค และจำเลยที่ 1 จึงไม่ควรรับผิด นั้น ศาลฎีกาเห็นว่าแม้จะมีข้อจำกัดเช่นนั้น ก็เป็นการภายในระหว่างกันไม่ปรากฏว่าโจทก์ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกได้รู้ถึงข้อความนี้จำเลยไม่พ้นจากความรับผิดตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 822 เพราะการที่ตัวการได้มอบอำนาจให้ตัวแทนดำเนินกิจการของโรงแรมได้ตลอดจนเปิดบัญชีเงินฝากธนาคารและลงนามในเช็คสั่งจ่ายด้วยนั้น ทำให้โจทก์มีมูลเหตุอันสมควรจะเชื่อว่ากิจการอันนั้นอยู่ในขอบอำนาจของตัวแทน
2. ที่จำเลยที่ 1 ฎีกาว่า เมื่อจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นตัวการอยู่ต่างประเทศ และมีกฎหมายให้ตัวแทนต้องรับผิดแล้ว ตัวการก็ไม่ต้องรับผิดด้วยนั้น ศาลฎีกาเห็นว่า ตัวการย่อมต้องรับผิดในกิจการทั้งหลายอันตัวแทนหรือตัวแทนช่วงได้ทำไปภายในขอบอำนาจตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 820 มิได้มีข้อยกเว้นว่าหากตัวการอยู่ต่างประเทศแล้ว จะมิต้องรับผิด ส่วนประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 824 ที่ให้ตัวแทนต้องรับผิดในเมื่อตัวการอยู่ต่างประเทศนั้น เป็นการเพิ่มความรับผิดแก่ตัวแทนเท่านั้นมิได้เปลี่ยนแปลงหลักกฎหมายแต่อย่างใด
3. ที่จำเลยที่ 1 ฎีกาว่าคดีนี้ฟ้องกันในฐานะตัวแทนออกเช็คก็ต้องวินิจฉัยตามกฎหมายลักษณะตั๋วเงิน จำเลยที่ 1 ไม่มีชื่อในเช็ค จึงไม่ต้องรับผิดนั้น ศาลฎีกาเห็นว่าโจทก์ฟ้องเรียกหนี้ตามเช็คที่จำเลยที่ 2 ออกให้เพื่อชำระหนี้เงินที่จำเลยที่ 2รับจากโจทก์ ไปใช้ในกิจการโรงแรมของจำเลยที่ 1 ไม่ใช่ฟ้องเรียกเงินตามเช็คโดยเฉพาะ จำเลยที่ 1 จึงไม่พ้นความรับผิดศาลฎีกาพิพากษายืน