คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 788/2497

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

สัญญาซื้อขายเรือนกันโดยมีข้อสัญญาว่าผู้ขายอาจซื้อกลับคืนได้ภายในกำหนดเวลา 2 เดือน ถ้าพ้นกำหนดแล้วไม่ซื้อคืนผู้ซื้อจะรื้อเรือนไป ดังนี้เป็นสัญญาขายฝากอสังหาริมทรัพย์ เพราะเรือนจะต้องคงสภาพเป็นอสังหาริมทรัพย์อยู่จนกว่าผู้ขายจะไม่ซื้อคืน
สัญญาขายฝากอสังหาริมทรัพย์ เมื่อไม่ได้จดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ย่อมเป็นโมฆะ

ย่อยาว

โจทก์จำเลยทำสัญญาซื้อขายเรือนฝากระดานกันเองโดยมีข้อสัญญาว่าโจทก์ยอมให้จำเลยซื้อคืนภายใน 2 เดือน ถ้าจำเลยไม่ซื้อคืนโจทก์จะรื้อเอาเรือนไป ครบกำหนดจำเลยไม่ซื้อคืนโจทก์จึงฟ้องขอให้ขับไล่เพื่อโจทก์จะรื้อเรือนไป

จำเลยให้การว่าความจริงเป็นเรื่องกู้เงินเอาเรือนเป็นประกัน

ศาลชั้นต้นงดสืบพยาน แล้ววินิจฉัยว่าสัญญารายนี้เป็นโมฆะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 456 พิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์ฎีกาว่าไม่ใช่สัญญาซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ อ้างฎีกาที่923/2485

ศาลฎีกาเห็นว่าฎีกาที่โจทก์อ้างนั้นได้อ้างถึงฎีกาที่ 169/2478ซึ่งเป็นการซื้อขายเพื่อรื้อถอนและได้รื้อไปแล้ว จึงเป็นการซื้อขายไม้ส่วนสัญญาคดีนี้เป็นสัญญาขายฝากเรือน ซึ่งเรือนจะต้องคงสภาพเป็นอสังหาริมทรัพย์อยู่จนกว่าจำเลยจะไม่ซื้อคืน และโจทก์รื้อเอาไปฉะนั้นจึงเป็นสัญญาขายฝากอสังหาริมทรัพย์ เมื่อมิได้จดทะเบียนจึงเป็นโมฆะ

พิพากษายืน

Share