คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 785/2501

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ตามฟ้องโจทก์ได้กล่าวบรรยายถึงการกระทำทั้งหลายที่อ้างว่าจำเลยได้กระทำผิด ข้อเท็จจริงและรายละเอียดฯลฯ อีกทั้งบุคคลหรือสิ่งของที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนข้อเขียนของจำเลยที่หาว่าดูหมิ่นนายแม๊ควัลโดบิชอบซึ่งเขียนลงในหนังสือพิมพ์ก็ได้คัดมาลงไว้โดยบริบูรณ์ซึ่งเมื่ออ่านตามข้อเขียนของจำเลยโดยตลอดแล้วมีข้อความพอที่จะให้สามัญชนเข้าใจได้ว่าเป็นการว่านายบิชอบเป็นกุ๊ย ซึ่งโจทก์หาว่าเป็นการดูหมิ่นนายบิชอบเช่นนี้ ต้องถือว่าตามฟ้องที่โจทก์กล่าวบรรยายมานั้น พอสมควรเท่าที่จะให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดีแล้ว เป็นฟ้องอันสมบูรณ์ตามกฎหมาย(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 8/2501)

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยหมิ่นประมาทและดูหมิ่นนายแม๊ควัลโดบิชอบเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาผู้แทนรัฐต่างประเทศ โดยจำเลยเขียนบทความโฆษณาในหนังสือพิมพ์สยามรัฐว่า

“คอลัมน์อันธพาล”

จอมพล ป.พิบูลสงครามขออย่าให้พูดว่า “การเลือกตั้งที่สกปรก” ขอบัญญัติให้ใช้ว่า “การเลือกตั้งที่ไม่เรียบร้อย” เพราะเหตุการณ์ดังกล่าวไม่ใช่มีแต่ประเทศไทยเรา เอกอัครราชทูตบิชอบแห่งสหรัฐอเมริกาเองได้บอกให้ทราบเมื่อวานนี้ว่า การเลือกตั้งในอเมริกานั้น ที่นครชิคาโกยังมีการแย่งหีบบัตรลงคะแนน

ข่าว “สยามรัฐ”

มันช่างสั่งช่างสอนกันดีจริงวะ เพราะคบกุ๊ยมะริกันยังงี้นี่เองถึงได้มาเสียคนมี “ชื่อเสียงที่ไม่เรียบร้อย” เอาเมื่อตอนแก่จะเข้าโลง

บ.ก.หน้าใหม่”

โดยประการที่น่าจะทำให้นายบิชอบถูกดูหมิ่นเกลียดชัง และจำเลยมีเจตนาจะให้ประชาชนเข้าใจว่านายบิชอบเป็นบุคคลเลวทรามต่ำช้าเป็นที่รังเกียจเหยียดหยามของคนทั่วไป ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 134 และ พระราชบัญญัติการพิมพ์ พ.ศ. 2484 มาตรา 48 วรรคสอง

จำเลยปฏิเสธ

ศาลแขวงพระนครเหนือพิจารณาแล้วฟังว่าจำเลยเขียนบทความลงในหนังสือพิมพ์สยามรัฐ” ดูหมิ่นนายแม๊ควัลโดบิชอบ เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาว่าเป็นกุ๊ย พิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 134 ให้ลงโทษจำคุก 1 เดือน ปรับ 500 บาท ไม่เสียค่าปรับจัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิจารณาฟังว่า จำเลยมีความผิดดังศาลแขวงพระนครเหนือแต่พิพากษาแก้โทษเป็นให้ปรับจำเลยตามที่วางมาเพียงสถานเดียว

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาพิจารณาแล้ว คดีนี้ต้องห้ามฎีกาในข้อเท็จจริง

ฎีกาจำเลยคงมีปัญหาข้อกฎหมายมาสู่การวินิจฉัยของศาลฎีกาเพียงข้อเดียว คือ ฟ้องโจทก์ที่กล่าวหาว่าจำเลยดูหมิ่นนายแม๊ควัลโดบิชอบนี้เป็นฟ้องอันสมบูรณ์ตามกฎหมายหรือไม่

กล่าวคือจำเลยคัดค้านเป็นใจความว่า ในฟ้องโจทก์ไม่กล่าวระบุเป็นข้อหาว่า จำเลยได้มีเจตนาหมิ่นประมาทหรือดูหมิ่นนายบิชอบว่าเป็นกุ๊ยเลย โจทก์เป็นแต่คัดข้อเขียนของจำเลยมากล่าวไว้ในฟ้อง แล้วกล่าวว่าข้อเขียนของจำเลยเป็นการหมิ่นประมาทหรือดูหมิ่นนายบิชอบเท่านั้น โจทก์หาได้กล่าวในฟ้องเป็นข้อหาขึ้นมาไม่ว่า ที่ว่าข้อเขียนของจำเลยเป็นการดูหมิ่นนายบิชอบนั้นจำเลยมีเจตนาดูหมิ่นว่ากระไร ต้องถือว่าเป็นฟ้องที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย

ศาลฎีกาโดยมติที่ประชุมใหญ่เห็นว่า ตามฟ้องคดีนี้ ได้มีอยู่ครบถ้วนตามที่ ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5) บัญญัติไว้แล้วกล่าวโดยเฉพาะก็คือ ได้กล่าวบรรยายถึงการกระทำทั้งหลายที่อ้างว่าจำเลยได้กระทำผิด ข้อเท็จจริงและรายละเอียด ฯลฯ อีกทั้งบุคคลหรือสิ่งของที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนข้อเขียนของจำเลยที่หาว่าดูหมิ่นนายบิชอบ ก็ได้คัดมาลงไว้โดยบริบูรณ์ ซึ่งตามข้อเขียนของจำเลยดังกล่าวนี้ เมื่ออ่านโดยตลอดแล้วมีข้อความพอที่จะให้สามัญชนเข้าใจได้ว่า เป็นการว่านายบิชอบเป็นกุ๊ยซึ่งโจทก์หาว่าเป็นการดูหมิ่นนายบิชอบ ฉะนั้นต้องถือว่าตามฟ้องที่โจทก์กล่าวบรรยายมานั้น พอสมควรเท่าที่จะให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดีแล้ว จึงเป็นฟ้องสมบูรณ์ตามกฎหมาย

พิพากษายืน

Share