แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
กรรมการบริษัทเดินทางออกจากประเทศและไม่สามารถติดต่อได้เนื่องจากเป็นผู้ต้องหาหลบหนีคดี แม้ไม่ใช่กรณีผู้แทนนิติบุคคลว่างลงซึ่งผู้ร้องอาจขอให้แต่งตั้งผู้แทนนิติบุคคลชั่วคราวได้ตาม ป.พ.พ. มาตรา 73 แต่เมื่อไม่มีกฎหมายที่จะยกมาปรับคดีได้ ทั้งไม่มีจารีตประเพณีแห่งท้องถิ่น จึงต้องอาศัยเทียบบทกฎหมายที่ใกล้เคียงอย่างยิ่งมาวินิจฉัยคดี ตาม ป.พ.พ. มาตรา 4 วรรคสอง และเห็นได้ว่า ป.พ.พ. มาตรา 73 เป็นบทกฎหมายที่ใกล้เคียงอย่างยิ่ง เพราะการที่กรรมการบริษัทไม่อยู่ทำหน้าที่ผู้แทนนิติบุคคลอาจมีผลเช่นเดียวกับตำแหน่งผู้แทนของนิติบุคคลว่างลง และการที่กรรมการดังกล่าวไม่อยู่อาจมีเหตุอันควรเชื่อว่าน่าจะเกิดความเสียหายขึ้นได้
การที่ผู้ร้องเป็นผู้ถือหุ้นและกรรมการบริษัทซึ่งเป็นผู้มีส่วนได้เสียขอให้ศาลแต่งตั้งผู้แทนนิติบุคคลชั่วคราว จะต้องได้ความว่าหากไม่แต่งตั้งผู้แทนนิติบุคคลชั่วคราวในขณะที่กรรมการบริษัทไม่อยู่จะเกิดความเสียหายขึ้นได้ และผู้ที่จะให้แต่งตั้งเป็นผู้แทนนิติบุคคลชั่วคราวเป็นผู้เหมาะสมที่จะทำหน้าที่ผู้แทนนิติบุคคลนั้นด้วย
ย่อยาว
ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งตั้งผู้แทนนิติบุคคลตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 75 ประกอบมาตรา 73 โดยตั้งนางธาราทิพย์ และนายชัยพล เป็นกรรมการผู้มีอำนาจกระทำการแทนบริษัททั้งสองเป็นการชั่วคราว โดยให้มีอำนาจกระทำการแทนผูกพันได้ทุกกรณีตามกฎหมาย
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกคำร้อง ค่าฤชาธรรมเนียมให้เป็นพับ
ผู้ร้องอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 8 พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับ
ผู้ร้องฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า มีปัญหาวินิจฉัยตามฎีกาของผู้ร้องว่า ผู้ร้องขอให้แต่งตั้งผู้แทนนิติบุคคลชั่วคราวหรือผู้แทนนิติบุคคลเฉพาะกาลตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 73 หรือมาตรา 75 ได้หรือไม่ กรณีนี้ผู้ร้องนำสืบว่า นายบหายูซาฮิบชาห์บู และนางอราตี กรรมการผู้มีอำนาจกระทำการแทนบริษัทเคบีซี มัลติ-เทรด จำกัด และบริษัทเคบีซี วิลล่าส์ จำกัด เดินทางออกจากประเทศไทยเมื่อประมาณเดือนพฤษภาคม 2557 จนถึงปัจจุบันยังไม่เดินทางกลับมาและผู้ร้องไม่สามารถติดต่อได้เนื่องจากบุคคลทั้งสองเป็นผู้ต้องหาหลบหนีคดีของประเทศอินเดีย เห็นว่า หากข้อเท็จจริงได้ความตามที่ผู้ร้องนำสืบ แม้ไม่ใช่กรณีที่ผู้แทนนิติบุคคลว่างลง ซึ่งผู้ร้องอาจขอให้แต่งตั้งผู้แทนนิติบุคคลชั่วคราวได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 73 และไม่ใช่กรณีที่ผู้แทนนิติบุคคลมีประโยชน์ได้เสียขัดกับประโยชน์ได้เสียของนิติบุคคลในการอันใดและผู้แทนนิติบุคคลจะเป็นผู้แทนในการอันนั้นไม่ได้ เป็นเหตุให้ไม่มีผู้แทนนิติบุคคลเหลืออยู่หรือเหลืออยู่ไม่พอจะเป็นองค์ประชุมหรือไม่พอจะกระทำการอันนั้นได้ ซึ่งผู้ร้องอาจขอให้แต่งตั้งผู้แทนนิติบุคคลเฉพาะกาลได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 75 ก็ตาม แต่เมื่อกรณีดังกล่าวไม่มีบทกฎหมายที่จะยกมาปรับคดีได้ ทั้งไม่มีจารีตประเพณีแห่งท้องถิ่นในกรณีนี้ จึงต้องอาศัยเทียบบทกฎหมายที่ใกล้เคียงอย่างยิ่งมาวินิจฉัยคดีนี้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 4 วรรคสอง และเห็นว่าประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 73 ซึ่งบัญญัติว่า ถ้ามีตำแหน่งว่างลงในจำนวนผู้แทนของนิติบุคคล และมีเหตุอันควรเชื่อว่าการปล่อยตำแหน่งว่างไว้น่าจะเกิดความเสียหายขึ้นได้ เมื่อผู้มีส่วนได้เสียหรือพนักงานอัยการร้องขอ ศาลจะแต่งตั้งผู้แทนชั่วคราวขึ้นก็ได้นั้น เป็นบทกฎหมายที่ใกล้เคียงอย่างยิ่งที่จะนำมาวินิจฉัยคดีนี้ได้ เพราะการที่กรรมการผู้มีอำนาจกระทำการแทนบริษัทไม่อยู่ทำหน้าที่ผู้แทนนิติบุคคลอาจมีผลเช่นเดียวกับตำแหน่งผู้แทนของนิติบุคคลว่างลง และการที่กรรมการดังกล่าวไม่อยู่นั้นอาจมีเหตุอันควรเชื่อว่าน่าจะเกิดความเสียหายขึ้นได้ อย่างไรก็ตาม การที่ผู้ร้องเป็นผู้ถือหุ้นและเป็นกรรมการบริษัทซึ่งเป็นผู้มีส่วนได้เสียขอให้ศาลแต่งตั้งผู้แทนนิติบุคคลชั่วคราว จะต้องได้ความว่าหากไม่แต่งตั้งผู้แทนนิติบุคคลชั่วคราวในขณะที่กรรมการดังกล่าวไม่อยู่จะเกิดความเสียหายขึ้นได้ และต้องได้ความว่าผู้ที่จะให้แต่งตั้งเป็นผู้แทนนิติบุคคลชั่วคราวเป็นผู้เหมาะสมที่จะทำหน้าที่ผู้แทนนิติบุคคลนั้นด้วย แต่ผู้ร้องนำสืบอ้างเพียงว่า บริษัททำธุรกรรมด้านการเงินเพื่อนำเงินของบริษัทมาชำระค่าใช้จ่ายประจำของบริษัทไม่ได้ โดยไม่มีรายละเอียดว่าบริษัทดำเนินกิจการและขัดข้องในการประกอบกิจการตามวัตถุประสงค์โดยเฉพาะในการกู้ยืมเงิน การทำสัญญาและการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ซึ่งผู้ร้องต้องลงลายมือชื่อร่วมกันกับ นายบหายูซาฮิบ และนางอราตี อย่างไร อีกทั้งบุคคลที่ผู้ร้องขอให้แต่งตั้งเป็นผู้แทนชั่วคราวของบริษัทก็ไม่ปรากฏว่ามีคุณสมบัติในด้านความรู้หรือมีประสบการณ์ในกิจการของบริษัท และมีความรับผิดชอบเหมาะสมที่จะทำหน้าที่ผู้แทนชั่วคราวของบริษัทแต่อย่างใด จึงไม่สมควรแต่งตั้งผู้แทนนิติบุคคลชั่วคราวตามคำร้อง ที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษายกคำร้องของผู้ร้อง ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วยในผล ฎีกาของผู้ร้องฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้เป็นพับ