แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ในระหว่างพิจารณารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขได้ออกประกาศกระทรวงสาธารณสุขฉบับที่92(พ.ศ.2538)ให้ยกเลิกประกาศกระทรวงสาธารณสุขฉบับที่85(พ.ศ.2536)โดยกำหนดการมีไว้ในครอบครองหรือใช้ประโยชน์ซึ่งวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท1หรือประเภท2เมื่อคำนวณปริมาณเป็นสารบริสุทธิ์แล้วสำหรับเมทแอมเฟตามีน ต้องไม่เกินปริมาณ0.500กรัมเมื่อไม่ปรากฎข้อเท็จจริงว่าวัตถุออกฤทธิ์ที่จำเลยมีไว้ในครอบครองคำนวณเป็นสารบริสุทธิ์ได้ปริมาณเกินกว่าที่รัฐมนตรีกำหนดหรือไม่จำเลยที่2จึงไม่มีความผิดตามพระราชบัญญัติวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทพ.ศ.2518มาตรา106ทวิเพราะประกาศกระทรวงสาธารณสุขฉบับที่92(พ.ศ.2538)เป็นคุณแก่จำเลยตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา3
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทั้งสองมี เมทแอมเฟตามีน จำนวน 11 เม็ดน้ำหนัก 0.66 กรัม ซึ่งเป็นวัตถุออกฤทธิ์ในประเภทที่ 2 ปริมาณเกินกว่าที่รัฐมนตรีกำหนด ตามมาตรา 6(7) ทวิ ในประกาศกระทรวงสาธารณสุขฉบับที่ 85 (พ.ศ. 2536) ไว้ในครอบครองเพื่อขายโดยฝ่าฝืนกฎหมายขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทพ.ศ. 2518 มาตรา 4, 5, 6, 7, 11, 59, 62, 106 ทวิ
จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า จำเลยที่ 2 มีความผิดตามพระราชบัญญัติวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ. 2518 มาตรา 62วรรคหนึ่ง, 106 ทวิ จำคุก 5 ปี คำให้การรับสารภาพชั้นจับกุมและชั้นสอบสวนของจำเลยที่ 2 เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้หนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก3 ปี 4 เดือน และให้ฟ้องโจทก์สำหรับจำเลยที่ 1
โจทก์ และ จำเลย ที่ 2 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ ภาค 3 พิพากษายืน
จำเลย ที่ 2 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ในระหว่างพิจารณา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้ออกประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ 92(พ.ศ. 2538) เรื่อง กำหนดปริมาณการมีไว้ในครอบครองหรือใช้ประโยชน์ซึ่งวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 1 หรือประเภท 2 ตามความในพระราชบัญญัติวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ. 2518 ให้ยกเลิกประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ 85 (พ.ศ. 2536) เรื่องกำหนดปริมาณการที่ไว้ในครอบครองหรือใช้ประโยชน์ซึ่งวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 1 หรือประเภท2 ตามความในพระราชบัญญัติวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ. 2518ลงวันที่ 19 มกราคม 2536 และกำหนดการมีไว้ในครอบครองหรือใช้ประโยชน์ซึ่งวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 1 หรือประเภท 2 เมื่อคำนวณปริมาณเป็นสารบริสุทธิ์แล้ว สำหรับเมทแอมเฟตามีนต้องไม่เกินปริมาณ 0.500 กรัม เมื่อข้อเท็จจริงไม่ปรากฎว่าวัตถุของกลางรวมน้ำหนัก 0.66 กลับ คำนวณเป็นสารบริสุทธิ์ได้ปริมาณเกินกว่าที่รัฐมนตรีกำหนดหรือไม่ จำเลยที่ 2 จึงไม่มีความผิดตามพระราชบัญญัติวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ. 2518มาตรา 106 ทวิ เพราะประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ 92(พ.ศ. 2538) เป็นคุณแก่จำเลย ทั้งนี้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 3และเห็นว่า ขณะกระทำผิดจำเลยที่ 2 มีอายุเพียง 17 ปี 6 วัน ยังอยู่ในเยาว์วัยและวัตถุของกลางก็มีจำนวนเพียง 11 เม็ด ไม่ปรากฎว่าจำเลยที่ 2 เคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน สมควรลดมาตราส่วนโทษและรอการลงโทษให้จำเลยที่ 2 กับคุมความประพฤติไว้ แต่เพื่อให้จำเลยที่ 2หลาบจำ จึงให้ปรับด้วย
พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยที่ 2 มีความผิดตามพระราชบัญญัติวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ. 2518 มาตรา 62 วรรคหนึ่ง, 106วรรคหนึ่ง ลดมาตราส่วนโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 76 คงจำคุก 1 ปี และปรับ 12,000 บาท คำให้การรับสารภาพในชั้นจับกุมและชั้นสอบสวนเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้หนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78คงจำคุก 8 เดือน และปรับ 8,000 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด2 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 และให้คุมความประพฤติของจำเลยที่ 2 ไว้ มีกำหนด 1 ปี โดยให้จำเลยที่ 2 ไปรายงานตัวต่อพนักงานคุมความประพฤติทุก 2 เดือน ต่อครั้ง ส่วนค่าปรับหากไม่ชำระให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30 นอกจากที่แก้ให้เป็นไปคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 3