คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 780/2491

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความผิดฐานนำเงินติดตัวเข้าไปในเรือนจำโดยไม่ได้รับอนุญาต ตามพ.ร.บ.ราชทัณฑ์ พ.ศ.2479 มาตรา 45 นั้น กฎหมายประสงค์ให้ลงโทษรวมถึงผู้ต้องขังด้วย

ย่อยาว

ความว่า จำเลยต้องหาในเรื่องปล้นฆ่าเจ้าทรัพย์ถูกคุมขังในเรือนจำจังหวัดสุโขทัย จำเลยได้นำเงิน 118 บาท 50 สตางค์ติดตัวเข้าไปในเรือนจำ โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติราชทัณฑ์ พ.ศ. 2479 มาตรา 45 กฎกระทรวงมหาดไทยออกตามความในมาตรา 53 แห่งพระราชบัญญัติราชทัณฑ์ พ.ศ. 2479 ข้อ 129 ขอให้ริบของกลาง จำเลยต่อสู้ว่าไม่ควรมีผิด เพราะกฎหมายประสงค์จะลงโทษคนภายนอกที่ไม่ใช่ผู้ต้องขัง ศาลชั้นต้นลงโทษจำเลยตามฟ้องให้ปรับจำเลย 10 บาท ริบเงินของกลาง ศาลอุทธรณ์เห็นว่า กฎหมายไม่ประสงค์ให้ลงโทษผู้ต้องขังที่มีเงินติดตัวมาด้วย พิพากษากลับยกฟ้องโจทก์ คืนเงินของกลางแก่จำเลย

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่าพระราชบัญญัติราชทัณฑ์ พ.ศ. 2479 มาตรา 37บัญญัติว่า “ในกรณีที่ผู้ต้องขังได้กระทำความผิดอาญาขึ้นภายในเรือนจำ และความผิดนั้นเป็นเพียงลหุโทษหรือความผิดตามมาตรา 45 แห่งพระราชบัญญัตินี้ก็ดี ฯลฯ แทนที่จะนำเรื่องขึ้นเสนอต่อพนักงานเจ้าหน้าที่เพื่อดำเนินการสอบสวนหรือฟ้องร้องตามกฎหมายให้ผู้บัญชาการเรือนจำมีอำนาจวินิจฉัยฐานผิดวินัยตามมาตรา 35 แห่งพระราชบัญญัตินี้ได้ ซึ่งแสดงให้เห็นความมุ่งหมายของพระราชบัญญัติฉบับนี้โดยชัดแจ้งว่าความผิดตามมาตรา 45 รวมถึงผู้ต้องขังด้วย

พิพากษากลับให้บังคับคดีไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

Share