แหล่งที่มา : ส่วนเลขานุการคณะกรรมการวินิจฉัยฯ
ย่อสั้น
คดีที่ กสท ยื่นฟ้องบริษัท อ. จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทเอกชนผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ว่า บริษัท อ. จำกัด ผู้ถูกฟ้องคดีกระทำละเมิดโดยติดตั้งและหรือเชื่อมต่อกับเครื่องและอุปกรณ์โทรคมนาคมที่ผู้ฟ้องคดีเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ และมีไว้ใช้สำหรับให้บริการวิทยุคมนาคมระบบเซลลูล่า (โทรศัพท์เคลื่อนที่) ตามสัญญาให้ดำเนินการฯ ที่ กสท ผู้ฟ้องคดี อนุญาตให้บริษัท ด. จำกัด แต่เพียงผู้เดียว เข้าร่วมดำเนินการให้บริการวิทยุคมนาคมระบบเซลลูล่า โดยผู้ถูกฟ้องคดีได้ใช้สถานีฐานเพื่อให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ในระบบ 3G ของผู้ถูกฟ้องคดี โดยปราศจากความยินยอมจากผู้ฟ้องคดี ขอให้พิพากษาให้ผู้ถูกฟ้องคดีรื้อถอนเครื่องและอุปกรณ์โทรคมนาคมและชดใช้ค่าเสียหาย เห็นว่า คดีพิพาทเกี่ยวกับการกระทำละเมิดที่จะอยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลปกครองนั้น ผู้ที่กระทำละเมิดต้องเป็นหน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐและต้องเป็นการกระทำละเมิดอันเกิดจากการใช้อำนาจตามกฎหมาย เมื่อคดีนี้ผู้ถูกฟ้องคดีเป็นนิติบุคคลเอกชน กรณีจึงไม่เข้าหลักเกณฑ์ของมาตรา ๙ วรรคหนึ่ง (๓) แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. ๒๕๔๒ ที่จะอยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลปกครอง ข้อพิพาทในคดีนี้ จึงเป็นคดีพิพาทเกี่ยวกับการกระทำละเมิดที่อยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลยุติธรรม และแม้ข้อพิพาทในคดีนี้จะเกี่ยวพันกับสัญญาที่ผู้ฟ้องคดีอนุญาตให้บริษัท ด. จำกัด เข้าร่วมดำเนินการให้บริการวิทยุคมนาคมระบบเซลลูล่า ซึ่งผู้ฟ้องคดีและบริษัท ด. จำกัด ได้ยื่นคำเสนอข้อพิพาทต่ออนุญาโตตุลาการก็ตาม แต่ข้อพิพาทดังกล่าวเป็นกรณีพิพาทเกี่ยวกับสัญญาระหว่างคู่สัญญา แต่ข้อพิพาทในคดีนี้เป็นคดีพิพาทเกี่ยวกับการกระทำละเมิดของผู้ถูกฟ้องคดีอันเป็นบุคคลภายนอกสัญญา ทั้งข้อพิพาทเกี่ยวกับสัญญาดังกล่าวยังไม่มีการฟ้องคดีต่อศาล ดังนั้น การวินิจฉัยเขตอำนาจศาลในคดี จึงไม่อาจนำหลักเกณฑ์เรื่องคดีเกี่ยวพันกันมาใช้บังคับได้ ประกอบกับผู้ถูกฟ้องคดีให้การว่า การกระทำของผู้ถูกฟ้องคดีไม่เป็นละเมิด เนื่องจากมีประกาศคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ว่าด้วยการใช้และเชื่อมต่อโครงข่ายโทรคมนาคม พ.ศ. ๒๕๔๙ และประกาศคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เรื่องการใช้โครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมร่วมกันสำหรับโครงข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ พ.ศ. ๒๕๕๖ กำหนดให้ผู้ถูกฟ้องคดีใช้โครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมร่วมกันได้ ซึ่งข้อต่อสู้ดังกล่าวไม่ใช่ข้อกำหนดในสัญญา แต่เป็นข้อต่อสู้ที่ผู้ถูกฟ้องคดียกขึ้นกล่าวอ้างว่าตนมีอำนาจกระทำได้ ไม่เป็นการกระทำละเมิดต่อผู้ฟ้องคดี ข้อพิพาทในคดีนี้จึงเป็นข้อพิพาทเกี่ยวกับการกระทำละเมิดและอยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลยุติธรรม