คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 778/2527

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การที่โจทก์ขายที่ดินให้บริษัท ท. แล้วเอาเงินทั้งหมดไปซื้อหุ้นของบริษัท ท. ก็เพื่อหาประโยชน์อันมีมูลค่าเช่น เงินปันผล หรือราคาหุ้นที่จะสูงขึ้น ถือได้ว่าโจทก์ได้ขายที่ดินให้แก่บริษัท ท. เป็นทางค้าหรือหากำไร จึงต้องเสียภาษีการค้าตามรายรับ โดยไม่ต้องคำนึงว่าโจทก์ขายที่ดินไปมีกำไรหรือขาดทุน
โจทก์โอนที่ดินให้บริษัท อ. แทนการชำระค่าหุ้น เป็นการจำหน่ายจ่ายโอนโดยมีผลประโยชน์ตอบแทน จึงเป็นการขายตามความหมายในมาตรา 77 แห่งประมวลรัษฎากรและการตั้งบริษัท อ. ขึ้นมาก็มีวัตถุประสงค์จะแบ่งปันกำไรที่จะพึงได้จากกิจการนั้น อันเป็นการค้าตามความหมายของมาตราดังกล่าวเช่นกัน ดังนั้น การที่โจทก์โอนที่ดินเพื่อแลกกับหุ้นที่ได้รับโอนมา จึงเป็นการขายที่ดินในทางค้าหรือหากำไร ต้องเสียภาษีการค้าตามประมวลรัษฎากร

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยแจ้งให้โจทก์เสียภาษีการค้า เบี้ยปรับและเงินเพิ่ม โดยอ้างเหตุว่าบริษัทโจทก์ประกอบกิจการค้าขายอสังหาริมทรัพย์ในทางค้าหรือหากำไร แต่ยื่นรายการเพื่อเสียภาษีอากรไม่ครบถ้วน จึงต้องเสียเพิ่มเติม โจทก์ไม่ได้ประกอบกิจการขายอสังหาริมทรัพย์เป็นทางค้าหรือหากำไร และตามหนังสือบริคณห์สนธิ บริษัทโจทก์จะทำการขายที่ดินหากำไรไม่ได้ ที่ดินที่โจทก์โอนขายแก่บริษัทไทยเซ็นทรัลเคมี จำกัด นั้น เจตนาที่แท้จริงในการโอนขายเป็นเพียงเอาที่ดินดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งในการลงทุนเข้าหุ้นในบริษัทดังกล่าว เพราะบริษัทมีระเบียบว่าต้องลงทุนเป็นเงินสด ที่ดินที่โจทก์ขายบางส่วนต่ำกว่าราคาที่ซื้อมา จึงไม่ใช่การขายเป็นทางค้าหรือหากำไร ส่วนที่ดินที่โอนให้บริษัท เอ็น.ไอ.เอ็ม. จำกัด นั้น โจทก์โอนให้เป็นการชำระค่าหุ้นซึ่งโจทก์เป็นผู้ถืออยู่ จึงไม่ใช่การขายเป็นทางค้าหรือหากำไรเช่นกัน การประเมินของจำเลยเป็นการไม่ชอบ โจทก์ได้อุทธรณ์ต่อคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์แล้วคณะกรรมการให้ยกอุทธรณ์ จึงขอให้ศาลพิพากษาเพิกถอนคำสั่งแบบแจ้งการประเมินและคำวินิจฉัยอุทธรณ์เสียทั้งสิ้น
จำเลยให้การว่า การที่โจทก์เอาที่ดินมาขายให้บริษัทไทยเซ็นทรัลเคมี จำกัดโจทก์ประสงค์จะได้กำไรจากการขายที่ดินและประโยชน์ในกิจการค้าของโจทก์และการที่โจทก์โอนที่ดินชำระค่าหุ้นให้แก่บริษัท เอ็น.ไอ.เอ็ม. จำกัด โจทก์ได้รับประโยชน์และกำไรจากการนี้ จึงเป็นการขายอสังหาริมทรัพย์ในทางค้าหรือหากำไร การประเมินและคำวินิจฉัยอุทธรณ์ของจำเลยชอบแล้ว ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า โจทก์โอนที่ดินไปโดยมิได้มุ่งเป็นทางค้าหรือหากำไร จึงไม่ต้องเสียภาษีการค้าตามประมวลรัษฎากร พิพากษาให้เพิกถอนแบบแจ้งการประเมินภาษีและคำวินิจฉัยอุทธรณ์ของจำเลย
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ประมวลรัษฎากร มาตรา ๗๗ ให้คำจำกัดความไว้ว่า”การค้า” หมายความว่า การประกอบธุรกิจ การพาณิชย์ การอุตสาหกรรม การเกษตรการผลิต การนำเข้า การส่งออก หรือการให้บริการใด ๆ เพื่อหาประโยชน์อันมีมูลค่า”ขาย” หมายความรวมถึงสัญญาจะขาย ขายฝาก แลกเปลี่ยน ให้เช่าซื้อ หรือจำหน่ายจ่ายโอนโดยมีประโยชน์ตอบแทนด้วย บริษัทโจทก์เข้าถือหุ้นในบริษัทไทยเซ็นทรัลเคมีจำกัด จำนวน ๑๓,๑๙๖ หุ้น คิดเป็นเงิน ๑๓,๑๙๖,๐๐๐ บาท แต่บริษัทโจทก์ขายที่ดินให้กับบริษัทไทยเซ็นทรัลเคมี จำกัด ไป ๓๒,๐๐๐,๐๐๐ บาท เมื่อชำระค่าหุ้นแล้วยังเหลือเงินอยู่อีกถึง ๑๘,๘๐๔,๐๐๐ บาท ต่อมาเมื่อบริษัทโจทก์ได้รับโอนหุ้นของบริษัทไทยเซ็นทรัลเคมี จำกัด จากกระทรวงการคลัง ๓๔,๘๐๐,๐๐๐ บาทตามเอกสาร จ.๖ และ ล.๙ โดยเป็นหุ้นที่กระทรวงการคลังถืออยู่ในบริษัทไทยเซ็นทรัลเคมี จำกัด ๑๔,๘๐๐ หุ้น คิดเป็นเงิน ๑๔,๘๐๐,๐๐๐ บาทและเป็นหุ้นของบริษัทปุ๋ยเคมี จำกัด จำนวน ๑๐,๐๐๐ หุ้น คิดเป็นเงิน๑๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท กับหุ้นของบริษัทอุตสาหกรรมเครื่องจักรกลไทย จำกัดจำนวน๑๐,๐๐๐๐ หุ้น คิดเป็นเงิน ๑๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท ซึ่งกระทรวงการคลังได้นำมาลงทุนในบริษัทไทยเซ็นทรัลเคมี จำกัด และรับโอนหุ้นของบริษัทไทยเซ็นทรัลเคมี จำกัด จากธนาคารกรุงไทยอีก ๒๔,๐๐๐ หุ้น คิดเป็นเงิน๒๔,๐๐๐,๐๐๐ บาท ตามเอกสารหมาย จ.๖ และ ล.๑๐ รวม ๕๘,๐๐๐,๐๐๐ บาทบริษัทโจทก์ได้เอาเงินที่เหลือนี้ทั้งหมดไปชำระเป็นส่วนหนึ่ง เห็นได้ว่าบริษัทโจทก์ขายที่ดินให้บริษัทไทยเซ็นทรัลเคมี จำกัด เป็นเงิน ๓๒,๐๐๐,๐๐๐ บาท นั้นโจทก์ก็ได้เอาเงินที่ขายได้มาทั้งหมดไปลงทุนซื้อหุ้นในบริษัทไทยเซ็นทรัลเคมี จำกัดซึ่งขณะนี้มีทุนถึง ๔๐๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท แล้วนั่นเอง บริษัทไทยเซ็นทรัลเคมี จำกัด ตั้งขึ้นมาเพื่อก่อสร้างโรงงานผลิตปุ๋ยเคมีขาย อันเป็นการค้าตามประมวลรัษฎากรมาตรา ๗๗ ดังกล่าวมาข้างต้น ตามสัญญาร่วมลงทุนเอกสารหมาย ล.๑ และ ล.๒ระหว่างบริษัทเซ็นทรัลเคมี จำกัด กับบริษัทโจทก์ มีข้อตกลงให้โจทก์มีหน้าที่จัดหาที่ดินที่จะสร้างโรงงานนำมาขายให้แก่บริษัทไทยเซ็นทรัลเคมี จำกัดจะต้องก่อสร้างอาคาร สร้างท่าเรือ โดยโจทก์จะต้องออกเงินไปก่อน เมื่อโอนที่ดินให้แก่บริษัทไทยเซ็นทรัลเคมี จำกัด แล้ว บริษัทดังกล่าวจึงจะชำระเงินค่าที่ดิน ค่าก่อสร้าง ที่โจทก์ออกล่วงหน้าให้โดยการผ่อนส่งเป็นรายปี ดังนี้เห็นได้ว่าที่บริษัทโจทก์ขายที่ดินให้บริษัทไทยเซ็นทรัลเคมี จำกัด เป็นเงิน ๓๒,๐๐๐,๐๐๐ บาทแล้วเอาเงินทั้งหมดไปซื้อหุ้นของบริษัทไทยเซ็นทรัลเคมี จำกัด ก็เพื่อหาประโยชน์อันมีมูลค่า เช่นเงินปันผลหรือราคาหุ้นที่จะสูงขึ้น ถือได้ว่าบริษัทโจทก์ได้ขายที่ดินให้กับบริษัทไทยเซ็นทรัลเคมี จำกัด เป็นทางค้าหรือหากำไร จึงต้องเสียภาษีการค้าตามรายรับ โดยไม่ต้องคำนึงว่าบริษัทโจทก์ขายที่ดินไปมีกำไรหรือขาดทุน ดังนี้โจทก์จึงต้องเสียภาษีการค้าตามบัญชีอัตราภาษีการค้าประเภทการค้า ๑๑ คือการค้าอสังหาริมทรัพย์ในรายการที่ประกอบการค้า คือการขายอสังหาริมทรัพย์เป็นทางค้าหรือหากำไรตามประมวลรัษฎากร
ส่วนที่โจทก์โอนที่ดินจำนวน ๓๙ ไร่ ๒ งาน ๘๖ ตารางวา ให้บริษัท เอ็น.ไอ.เอ็ม.จำกัด แทนการชำระค่าหุ้น ๒๓,๙๙๑ หุ้น คิดเป็นเงิน ๒๓,๙๙๑,๐๐๐ บาทก็เป็นการจำหน่ายจ่ายโอนโดยมีประโยชน์ตอบแทน จึงเป็นการขายตามความหมายในมาตรา ๗๗ แห่งประมวลรัษฎากร และการที่ตั้งบริษัท เอ็น.ไอ.เอ็ม. จำกัด ก็เห็นได้ว่ามีวัตถุประสงค์จะแบ่งปันกำไรอันจะพึงได้แต่กิจการนั้น อันเป็นการค้าตามประมวลรัษฎากร มาตรา ๗๗ การที่บริษัทโจทก์โอนที่ดินจำนวนดังกล่าวเพื่อแลกกับหุ้นที่ได้รับโอนมาจำนวน ๒๓,๙๙๑ หุ้น คิดเป็นเงิน ๒๓,๙๙๑,๐๐๐ บาทจึงเป็นการขายที่ดินในทางค้าหรือหากำไร ดังนี้โจทก์จึงต้องเสียภาษีการค้าเช่นเดียวกันกับที่ได้ขายที่ดินให้กับบริษัทไทยเซ็นทรัลเคมี จำกัด
พิพากษากลับเป็นว่า ให้ยกฟ้องโจทก์

Share