คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 777/2506

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

1. เมื่อเกิดมีข้อโต้แย้งเกี่ยวกับสิทธิหรือหน้าที่ของบุคคลขึ้นแล้ว ย่อมมีอำนาจฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 55
2. ตามความในประมวลรัษฎากร พ.ศ.2481 มาตรา 78,79 การขายของตามบัญชีอัตราภาษีการค้าประเภทที่ 2 นั้นหมายถึงการขายสินค้าซึ่งโอนกันได้โดยชอบด้วยกฎหมายไม่ใช่ทรัพย์นอกพาณิชย์ซึ่งไม่อาจโอนให้แก่กันได้โดยชอบด้วยกฎหมาย ฉะนั้น การซื้อขายฝิ่นซึ่งไม่ใช่เป็นการซื้อขายฝิ่นตามพระราชบัญญัติฝิ่น พ.ศ.2472 หมวด 3นั้น จึงไม่ใช่สินค้าที่ขายกันได้ตามความในประมวลรัษฎากร ผู้ขายจึงไม่ต้องรับผิดในการเสียภาษีการค้า
(ข้อ 2 ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 42-43/2505)

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ศาลพิพากษาถอนคำสั่งของจำเลยที่ให้โจทก์จดทะเบียนการค้าประเภทขายของ

จำเลยให้การต่อสู้ว่า โจทก์มีหน้าที่ยื่นคำขอจดทะเบียนการค้าและเสียภาษีการค้าโจทก์ยังไม่ได้รับความเสียหาย ไม่มีอำนาจฟ้อง

ศาลชั้นต้นว่า โจทก์มีอำนาจฟ้องและว่า ยังถือไม่ได้ว่าโจทก์เป็นผู้ประกอบการค้าและสถานที่พักและต้มฝิ่นไม่ใช่สถานการค้าพิพากษาให้เพิกถอนคำสั่งและคำชี้ขาดของจำเลย

จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาว่า (1) ในเรื่องอำนาจฟ้องนั้น จำเลยได้ให้การว่าจำเลยได้ประเมินค่ารายปีของสถานการค้าตามมาตรา 81 ทวิ แจ้งไปยังโจทก์แล้ว และตามคำสั่งของจำเลยก็ให้โจทก์เสียภาษีในอัตราร้อยละ 1 ทั้งโจทก์ก็ได้อุทธรณ์คำสั่งของจำเลยที่ 1 ต่อจำเลยที่ 2 ๆ สั่งยกอุทธรณ์ นับว่าเกิดมีข้อโต้แย้งเกี่ยวกับสิทธิหรือหน้าที่ของบุคคลขึ้นแล้ว โจทก์ย่อมมีอำนาจฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 55(2) ปัญหาว่าโจทก์จะต้องเสียภาษีด้วยหรือไม่นั้น ศาลฎีกาปรึกษาในที่ประชุมใหญ่แล้ว ภาษีการค้าตามประมวลรัษฎากร (หมายถึงฉบับ พ.ศ. 2481 ที่ใช้บังคับคดีนี้) มาตรา 79 ผู้ประกอบการค้าที่มีสถานการค้าซึ่งมีค่ารายปีรวมกัน ตั้งแต่ 120 บาทขึ้นไป มีหน้าที่ต้องเสียและปฏิบัติตามบทบัญญัติที่ระบุไว้ มาตรา 78 บัญญัติว่า”สถานการค้าหมายความว่า สถานที่หรือยานพาหนะซึ่งผู้ประกอบการค้าใช้ประกอบหรือดำเนินการค้า ไม่ว่าจะใช้เป็นการประจำหรือชั่วคราว ทั้งนี้ให้หมายความรวมถึงสถานที่หรือยานพาหนะซึ่งใช้เป็นที่ผลิตหรือเก็บสินค้าด้วยเว้นแต่รถหรือเรือซึ่งไม่ต้องจดทะเบียนตามกฎหมายว่าด้วยการนั้นและยานพาหนะซึ่งเคลื่อนที่ด้วยกำลังคนหรือสัตว์” ตามบทบัญญัตินี้ ถึงแม้สถานการค้าจะหมายความถึงสถานที่ที่ผู้ประกอบการค้าใช้เป็นการชั่วคราวด้วยก็ดี ปัญหาที่ต้องพิจารณาต่อไปก็คือกิจการของโจทก์ในคดีนี้จะถือเป็นการขายของตามบัญชีอัตราภาษีการค้าประเภทที่ 2 ได้หรือไม่ การขายของในที่นี้ประกอบกับวิเคราะห์ศัพท์คำว่า สถานการค้า ต้องเข้าใจว่าหมายความถึงการขายสินค้าซึ่งเป็นสิ่งที่โอนกันได้โดยชอบด้วยกฎหมายมิใช่เป็นทรัพย์นอกพาณิชย์ที่บุคคลผู้จะเสียภาษีไม่อาจโอนให้แก่กันได้โดยชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งย่อมเป็นที่เห็นได้ว่าจะมีการขายและเก็บภาษีในการขายสิ่งที่เป็นมูลที่ตั้งแห่งความผิดต่อกฎหมายไม่ได้อยู่เอง สัญญาที่โจทก์จำเลยเรียกว่าซื้อขายฝิ่นกันในคดีนี้ หาใช่การขายฝิ่นที่ได้บัญญัติไว้ให้บุคคลใดกระทำได้ตามบทบัญญัติในพระราชบัญญัติฝิ่น พ.ศ. 2472 หมวด 3 แต่ประการใดไม่ หากเป็นวิธีการที่เจ้าหน้าที่ยอมให้บุคคลหนึ่งทำการตามที่ระบุไว้ได้โดยไม่ถือเป็นการฝ่าฝืนพระราชบัญญัติฝิ่นเท่านั้น ฝิ่นที่นำมาขายแก่กันจึงไม่ใช่สินค้าที่ขายกันได้ตามความหมายในประมวลรัษฎากร โจทก์ไม่ต้องรับผิดในการเสียภาษีการค้าแต่อย่างใด

พิพากษายืน ยกฎีกาจำเลย

Share