แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ฟ้องโจทก์บรรยายเพียงว่า จำเลยสมคบกันใช้อาวุธทำร้ายผู้ตายแล้วผู้ตาย ตายเพราะพิษบาดแผลนั้น ไม่ได้กล่าวว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้ตายให้ถึงแก่ความตาย เมื่อข้อเท็จจริงได้ความว่าจำเลยได้ใช้ไม้ทำร้ายผู้ตาย แต่ผู้ตายมีบาดแผลถูกฟันด้วยแสดงว่าถูกคนอื่นทำร้ายผู้ตายด้วยทั้งไม่ได้ความว่าได้สมคบกับจำเลยหรือไม่ เช่นนี้ จะลงโทษจำเลยตามมาตรา 249 ไม่ได้ ต้องลงโทษฐานฆ่าคนตายโดยไม่เจตนาตามมาตรา 251
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยสมคบกันใช้ไม้และสากมือตำข้าว กับมีดเป็นอาวุธทำร้ายร่างกายนายเลื่อน อิ่มสีนาก มีบาดแผลตามรายงานชันสูตรพลิกศพท้ายฟ้อง นายเลื่อนถึงแก่ความตายเพราะพิษบาดแผลที่ถูกทำร้าย จึงขอให้ลงโทษตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 249
ศาลชั้นต้นลงโทษจำเลยที่ 1, 2 ตามฟ้องปล่อยจำเลยที่ 3
จำเลยที่ 1, 2 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ ให้ยกฟ้องโจทก์
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า พยานโจทก์เบิกความแตกต่างกันฟังลงโทษจำเลยที่ 2 ไม่ได้ ส่วนจำเลยที่ 1 รับสารภาพว่าได้ใช้ไม้ทำร้ายผู้ตาย ทั้งทางพิจารณาก็ฟังได้ว่าจำเลยที่ 1 ทำร้ายผู้ตายจริง แต่ผู้ตายมีบาดแผลหลายแห่ง คงไม่ใช่ถูกจำเลยที่ 1 ทำร้ายเพียงคนเดียว และไม่ได้ความว่า พวกที่ทำร้ายได้สมคบกันมาอย่างใด อาจเป็นด้วยต่างคนต่างทำเพราะความอวดดีของผู้ตายและเกิดขึ้นในปัจจุบันทันทีก็ได้ ทั้งฟ้องโจทก์ก็ไม่ได้กล่าวหาว่าจำเลยกับพวกมีเจตนาจะฆ่าผู้ตายให้ถึงแก่ความตาย จึงลงโทษจำเลยที่ 1 ฐานฆ่าคนตายโดยเจตนาไม่ได้
พิพากษาแก้ให้ลงโทษจำเลยที่ 1 มีกำหนด 5 ปี ตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 251