คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 96-97/2485

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เพียงแต่สงสัยหรือเข้าใจเอาเองว่าภริยาเป็นชู้ยังไม่เป็นเหตุหย่า และการที่ภริยาชอบเล่นการพะนันอย่างเดียวก็ไม่เป็นเหตุหย่าบุตร์ซึ่งยังไม่บรรลุนิติภาวะต้องอยู่ในความปกครองของบิดา มารดาอ้างเหตุเพียงว่าเป็นห่วงบุตร์เกรงจะไม่ได้รับความสุขโดยมารดาเลี้ยงอาจรังแก ยังไม่เป็นเหตุเพียงพอที่จะขอปกครองบุตร์ ภริยาออกจากบ้านไปโดยไม่มีเหตุอันสมควร ไม่มีสิทธิเรียกค่าเลี้ยงดูจากสามี ภริยาฟ้องเรียกค่าเลี้ยงดูและค่าที่อดยู่สำหรับตนเองจะวินิจฉัยถึงค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตร์ด้วยไม่ได้เพราะเกินคำฟ้อง

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องเรียกค่าอุปการะเลี้ยงดูเพราะจำเลยมีภริยาน้อยและขับไล่โจทก์ออกจากบ้านจำเลยอ้างว่าโจทก์ประพฤติชอบเล่นการพะนันและมีชู้ขอหย่าและขอให้ส่งบุตร์ทั้ง ๓ คนมาอยู่ในปกครองของจำเลย ศาลชั้นต้นพิพากษาว่ายังไม่มีเหตุสมควรที่จะเป็นเหตุขอหย่า ส่วนบุตร์ก็ควรอยู่กับโจทก์ซึ่งเป็นมารดาแท้ดีกว่าจะอยู่กับจำเลยและมารดาเลี้ยง จึงให้จำเลยจ่ายค่าอุปการะเลี้ยงดูให้โจทก์เดือนละ ๖๐ บาทนับแต่วันที่โจทก์ออกจากบ้านและต่อไปจนกว่าจะครบ ๕ ปี
จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณพิพากษายืน
จำเลยฎีกา ศาลฎีกาเห็นว่าจำเลยนำสืบไม่ได้ความชัดว่าโจทก์มีชู้ และการที่โจทก์มีนิสัยชอบเล่นการพะนันนั้น ก็ยังไม่เป็นเหตุหย่าจึงยกฎีกาจำเลยในข้อนี้ ส่วนข้อที่จำเลยขอปกครองบุตร์นั้น การที่โจทก์อ้างเพียงว่าบุตร์จะไม่ได้รับความสุขโดยเมียน้อยของจำเลยซึ่งเป็นมารดาเลี้ยงของบุตร์อาจรังแกบุตร์โจทก์ นั้น ยังไม่เป็นเหตุเพียงพอ และตามกฎหมายบุตร์ซึ่งยังไม่บรรลุนิติภาวะต้องอยู่ใต้อำนาจปกครองของบิดา และเรื่องนี้จำเลยอยู่ในฐานะจะเลี้ยงดูและให้การศึกษแก่บุตร์ได้ดีกว่าโจทก์ส่วนการที่ศาลล่างทั้งสองวินิจฉัยถึงเรื่องค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตร์ด้วยนั้นเห็นว่าเป็นการเกินคำฟ้อง เพราะโจทก์ฟ้องเรียกค่าเลี้ยงดูสำหรับตนเองเท่านั้น จึงพิพากษา
ให้โจทก์ส่งบุตร์แก่จำเลย และให้ยกฟ้องในเรื่องขอค่าเลี้ยงดูและขอหย่า ค่าธรรมเนียมให้เป็นพับไป

Share