แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลย 3 คนสมคบกันฆ่าคนโดยเจตนา ทางพิจารณาปรากฎว่า จำเลยที่ 2-3 ใช้ไม้ตีผู้ตายคนละทีก่อน แล้วจำเลยที่ 1 จึงเอาปืนยิงผู้ตายถึงแก่ความตาย ดังนี้ตามลักษณะคดี จำเลยทั้ง 3 หาได้สมคบกันฆ่าผู้ตายโดยเจตนาไม่ จำเลยที่ 1 ผู้เดียวมีความผิดฐานฆ่าคนโดยเจตนา จำเลยที่ 2-3 มีความผิดฐานทำร้ายร่างกายมีบาดเจ็บ.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยสมคบกันทำร้ายร่างกายนายเยื้อยโดยเจตนาจะฆ่าให้ตาย โดยจำเลยที่ ๑ ใช้ปืนยิง จำเลยที่ ๒-๓ ใช้ไม้ตี นายเยื้อนได้ถึงแก่ความตาย จึงขอให้ลงโทษตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา ๒๔๙,๖๓. จำเลยปฏิเสธ ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีผิดฐานสมคบฆ่าคนตายโดยเจตนา แต่จำเลยกระทำโดยบรรดาลโทษะ จึงให้จำคุกจำเลยที่ ๑, ๙ ปี จำเลยที่ ๒-๓ คนละ ๗ ปี ๖ เดือน ตามมาตรา ๒๔๙,๕๕ ลดโทษจำเลยที่ ๒ ตามมาตรา ๕๙ คงจำคุกจำเลยที่ ๒ มีกำหนด ๕ ปี ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน.
จำเลยฎีกา,
ศาลฎีกาเห็นว่า เหตุเกิดขึ้นโดยปัจจุบัน เนื่องจากผู้ตายเสพสุราเมาไปท้าทายจะทำร้ายจำเลยที่ ๑ จำเลยที่ ๒-๓ ได้เข้าใช้ไม้ตีนายเยื้อนคนละทีก่อน จำเลยที่ ๑ จึงเข้ามา เอาปืนยิงนายเยื้อน ตามลักษณะคดีจำเลยทั้ง ๓ หาได้สมคบกันฆ่าผู้ตายโดยเจตนาไม่ จำเลยที่ ๑ มีผิดฐานฆ่าคนตายโดยเจตนา จำเลยที่ ๒-๓ มีผิดฐานทำร้ายร่างกายบาดเจ็บ
พิพากษาแก้ ให้จำคุกจำเลยที่ ๒-๓ คนละ ๒ ปี ลดโทษจำเลยที่ ๒ ให้ ๑ ใน ๓ คงจำคุก ๑ ปี ๔ เดือน นอกจากแก้คงยืน.