คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7728-7729/2548

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ลูกหนี้ซึ่งได้รับอนุญาตให้ประกอบการขนส่งไม่ประจำทางให้บริษัทเขมจิราขนส่ง จำกัด เช่ารถบรรทุกน้ำมันคันเกิดเหตุโดยมีชื่อและเครื่องหมายของลูกหนี้อยู่ที่รถ แล้วนำไปบรรทุกน้ำมันส่งให้แก่ลูกค้าทั่วราชอาณาจักร ถือได้ว่าบริษัทดังกล่าวเป็นตัวแทนของลูกหนี้ในการขนส่งน้ำมัน เมื่อผู้ขับรถบรรทุกน้ำมันซึ่งเป็นลูกจ้างของบริษัทดังกล่าวได้กระทำละเมิดต่อเจ้าหนี้ทั้งสองในทางการที่จ้าง ลูกหนี้ย่อมต้องรับผิดในผลแห่งการละเมิดที่ลูกจ้างของตัวแทนได้กระทำไปตาม ป.พ.พ. มาตรา 425, 427, 820

ย่อยาว

คดีสองสำนวนนี้ศาลล้มละลายกลางสั่งให้พิจารณาคดีรวมกัน
คดีสืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2543 ศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งให้ฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้และตั้งบริษัทเอ็ฟเฟ็คทีฟแพลนเนอร์ส จำกัด เป็นผู้ทำแผน ต่อมาวันที่ 15 ธันวาคม 2543 ศาลมีคำสั่งเห็นชอบด้วยแผนโดยมีผู้ทำแผนเป็นผู้บริหารแผน และเมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2546 ศาลมีคำสั่งอนุญาตให้ผู้ทำแผนลาออกโดยตั้งบริษัทอุตสาหกรรมปิโตรเคมีกัลไทย จำกัด (มหาชน) และเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เป็นผู้บริหารแผนชั่วคราวจนกว่าศาลจะมีคำสั่งตั้งผู้บริหารแผนคนใหม่หรือมีคำสั่งเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่น ซึ่งต่อมาวันที่ 28 กรกฎาคม 2546 ศาลมีคำสั่งตั้งกระทรวงการคลังเป็นผู้บริหารแผนคนใหม่ของลูกหนี้
เจ้าหนี้รายที่ 20 ยื่นคำขอรับชำระหนี้ในการฟื้นฟูกิจการในมูลหนี้ละเมิดเป็นเงิน 13,076,606.69 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ของต้นเงิน 12,920,689.13 บาท นับแต่วันถัดจากวันที่ศาลมีคำสั่งให้ฟื้นฟูกิจการจนกว่าจะได้รับชำระเสร็จจากลูกหนี้ รายละเอียดปรากฏตามบัญชีแนบท้ายคำขอรับชำระหนี้
เจ้าหนี้รายที่ 28 ยื่นคำขอรับชำระหนี้ในการฟื้นฟูกิจการในมูลหนี้ละเมิดเป็นเงิน 4,625,506.85 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ของต้นเงิน 4,572,000 บาท นับแต่วันถัดจากวันที่ศาลมีคำสั่งให้ฟื้นฟูกิจการจนกว่าจะได้รับชำระเสร็จจากลูกหนี้ รายละเอียดปรากฏตามบัญชีแนบท้ายคำขอรับชำระหนี้
เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้ให้บรรดาเจ้าหนี้ ลูกหนี้ และผู้ทำแผนตรวจคำขอรับชำระหนี้ในการฟื้นฟูกิจการตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา 90/27 แล้ว ผู้ทำแผนและเจ้าหนี้รายที่ 32 โต้แย้งคำขอรับชำระหนี้ของเจ้าหนี้ทั้งสองรายดังกล่าวว่า เจ้าหนี้ทั้งสองรายและลูกหนี้ไม่มีนิติสัมพันธ์ระหว่างกัน ค่าเสียหายที่เจ้าหนี้ทั้งสองรายเรียกมาสูงเกินความเป็นจริง
เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์สอบสวนแล้วมีคำสั่งอนุญาตให้เจ้าหนี้รายที่ 20 ได้รับชำระหนี้จำนวน 6,774,438.40 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ของต้นเงิน 6,702,287.30 บาท นับแต่วันถัดจากวันที่ศาลมีคำสั่งให้ฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ ส่วนที่ขอเกินมาให้ยกเสียตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา 90/32 วรรคสอง (3) และอนุญาตให้เจ้าหนี้รายที่ 28 ได้รับชำระหนี้จำนวน 4,625,506.85 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปีของต้นเงิน 4,572,000 บาท นับแต่วันถัดจากวันที่ศาลมีคำสั่งให้ฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้เป็นต้นไปจนกว่าจะได้รับชำระเสร็จตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา 90/32 วรรคสอง (3) (ที่ถูกคือ (2))
ผู้บริหารแผนยื่นคำร้องคัดค้านว่า คำวินิจฉัยของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ทั้งสองสำนวนยังคลาดเคลื่อนต่อข้อเท็จจริง ขอให้มีคำสั่งยกคำสั่งของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์
เจ้าหนี้รายที่ 20 และรายที่ 28 และเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ต่างยื่นคำคัดค้านขอให้ยกคำร้อง
ศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งแก้คำสั่งเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เป็นว่า อนุญาตให้เจ้าหนี้รายที่ 20 ได้รับชำระหนี้ในการฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้ในมูลหนี้ละเมิดเป็นเงิน 4,156,715.50 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ของเงินต้น 3,645,215.50 บาท นับแต่วันที่ 25 เมษายน 2543 เป็นต้นไปจนกว่าจะได้รับชำระเสร็จ และอนุญาตให้เจ้าหนี้รายที่ 28 ได้รับชำระหนี้ในการฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้ในมูลละเมิดเป็นเงิน 3,429,000 บาท นับแต่วันที่ 25 เมษายน 2543 เป็นต้นไปจนกว่าจะได้รับชำระเสร็จ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำสั่งเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ ค่าฤชาธรรมเนียมให้เป็นพับ
ลูกหนี้ เจ้าหนี้รายที่ 20 และที่ 28 อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีล้มละลายวินิจฉัยว่า ปัญหาวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของลูกหนี้ว่า ลูกหนี้จะต้องรับผิดต่อการละเมิดของผู้ขับรถบรรทุกน้ำมันต่อเจ้าหนี้รายที่ 20 และที่ 28 หรือไม่ ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า นายนิยมผู้ขับรถบรรทุกน้ำมันเป็นลูกจ้างของบริษัทเขมจิราขนส่ง จำกัด คดีนี้นายจำนงค์กรรมการบริษัทลูกหนี้ให้ถ้อยคำต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ประกอบสำเนาสัญญาเช่าได้ความว่า วันที่ 1 มกราคม 2543 ลูกหนี้ได้ทำสัญญากับบริษัทเขมจิราขนส่ง จำกัด ให้เช่ารถบรรทุกน้ำมันพร้อมอุปกรณ์จำนวน 100 คัน รถบรรทุกน้ำมันคันเกิดเหตุเป็นรถคันหนึ่งในจำนวนดังกล่าว และร้อยตำรวจเอกครรชิตพนักงานสอบสวนให้ถ้อยคำยืนยันว่ารถบรรทุกน้ำมันคันเกิดเหตุมีชื่อและเครื่องหมายของลูกหนี้อยู่ที่รถ ทั้งนายจำนงค์ก็มิได้คัดค้านว่ารถบรรทุกน้ำมันคันเกิดเหตุมิได้ใช้ในการขนส่งน้ำมันของลูกหนี้แต่อย่างใด ดังนั้น การที่ลูกหนี้ได้รับอนุญาตให้ประกอบการขนส่งไม่ประจำทาง และลูกหนี้ให้บริษัทเขมจิราขนส่ง จำกัด เช่ารถบรรทุกน้ำมันคันเกิดเหตุโดยมีชื่อและเครื่องหมายของลูกหนี้อยู่ที่รถแล้วนำไปบรรทุกน้ำมันส่งให้แก่ลูกค้าทั่วราชอาณาจักร ถือได้ว่าบริษัทเขมจิราขนส่ง จำกัด เป็นตัวแทนของลูกหนี้ในการขนส่งน้ำมัน แม้ผู้ขับรถบรรทุกน้ำมันจะเป็นลูกจ้างของบริษัทเขมจิราขนส่ง จำกัด และขับรถไปในทางการที่จ้างของบริษัทเขมจิราขนส่ง จำกัด เมื่อผู้ขับรถบรรทุกน้ำมันได้กระทำละเมิดต่อเจ้าหนี้ทั้งสองในทางการที่จ้าง ลูกหนี้ย่อมต้องรับผิดในผลแห่งการละเมิดที่ลูกจ้างของตัวแทนได้กระทำไปตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 425, 427, 820 ที่ศาลล้มละลายกลางวินิจฉัยว่าลูกหนี้ต้องรับผิดต่อการละเมิดของผู้ขับรถบรรทุกน้ำมันของบริษัทเขมจิราขนส่ง จำกัด นั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย อุทธรณ์ของลูกหนี้ข้อนี้ฟังไม่ขึ้น
พิพากษาแก้เป็นว่า อนุญาตให้เจ้าหนี้รายที่ 20 ได้รับชำระหนี้ในการฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้ในมูลหนี้ละเมิดเป็นเงิน 4,947,215.50 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี จากต้นเงิน 4,265,215.50 บาท นับแต่วันที่ 24 เมษายน 2543 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ และอนุญาตให้เจ้าหนี้รายที่ 28 ได้รับชำระหนี้ในการฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้ในมูลละเมิดเป็นเงิน 3,372,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี จากต้นเงิน 3,000,000 บาท นับแต่วันที่ 24 เมษายน 2543 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำสั่งศาลล้มละลายกลาง ค่าฤชาธรรมเนียมในชั้นนี้ให้เป็นพับ.

Share