แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์กล่าวในฟ้องว่า จำเลยลักทรัพย์ของผู้เสียหายในเคหสถานในเวลากลางคืนโดยเข้าทางช่องทางซึ่งทำขึ้นโดยไม่ได้จำนงให้เป็นทางคนเข้าโดยไม่ได้รับอนุญาตอันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 335(1)(4)(8) การเข้าไปในเคหสถานโดยไม่ได้รับอนุญาตถือได้ว่าเป็นการเข้าไปในเคหสถานโดยไม่มีเหตุอันสมควรนั่นเองความผิดฐานลักทรัพย์ในเคหสถานจึงเป็นความผิดที่รวมการกระทำผิดฐานบุกรุกตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 364 อยู่ด้วยในตัว แม้โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานลักทรัพย์ในเคหสถานในเวลากลางคืน แต่เมื่อข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยกระทำผิดฐานบุกรุกในเวลากลางคืน จึงไม่ใช่เป็นเรื่องที่โจทก์ไม่ประสงค์ให้ลงโทษจำเลยฐานบุกรุกในเวลากลางคืน ดังนั้น ศาลลงโทษจำเลยฐานบุกรุกตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 365(3) ประกอบมาตรา 364 ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192 วรรคท้าย.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยลักทรัพย์เอาสุราแม่โขง 3 ขวดของผู้เสียหายในเคหสถานในเวลากลางคืนโดยเข้าทางช่องทางซึ่งทำขึ้นโดยไม่จำนงให้เป็นทางคนเข้าโดยไม่ได้รับอนุญาต ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 365 จำเลยอายุ 17 ปีเศษ ลดมาตราส่วนโทษให้หนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 76 จำคุก 1 ปี
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงในชั้นนี้ที่โจทก์จำเลยมิได้โต้เถียงกันฟังได้ว่าวันเวลาตามฟ้องจำเลยได้เข้าไปในบ้านของผู้เสียหายโดย ไม่ได้รับอนุญาต คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยว่าข้อเท็จจริงที่กล่าวในฟ้องและปรากฏในทางพิจารณาไม่ใช่เป็นเรื่องที่โจทก์ประสงค์ให้ลงโทษจำเลยหรือไม่ เห็นว่า โจทก์กล่าวในฟ้องว่าจำเลยลักทรัพย์ของผู้เสียหายในเคหสถานในเวลากลางคืนโดยเข้าทางช่องทางซึ่งทำขึ้นโดยไม่ได้จำนงให้เป็นทางคนเข้าโดยไม่ได้รับอนุญาตอันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335(1) (4) (8) การเข้าไปในเคหสถานโดยไม่ได้รับอนุญาตนั้น ถือได้ว่าเป็นการเข้าไปในเคหสถานโดยไม่มีเหตุอันสมควรนั่นเอง อันเป็นองค์ประกอบความผิดฐานบุกรุกตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 364 ความผิดฐานลักทรัพย์ในเคหสถานจึงเป็นความผิดที่รวมการกระทำผิดฐานบุกรุกตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 364 อยู่ด้วยในตัว ทั้งการบรรยายฟ้องของโจทก์ดังกล่าวเป็นการบรรยายถึงองค์ประกอบความผิดของมาตรา 365(3)ประกอบมาตรา 364 ด้วย แม้โจทก์จะฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานลักทรัพย์ในเคหสถานในเวลากลางคืน แต่เมื่อข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยกระทำผิดฐานบุกรุกในเวลากลางคืน จึงไม่ใช่เป็นเรื่องที่โจทก์ไม่ประสงค์ให้ลงโทษจำเลยฐานบุกรุกในเวลากลางคืน ดังนั้นศาลลงโทษจำเลยฐานบุกรุกตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 365(3)ประกอบมาตรา 364 ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192วรรคท้าย แต่ที่โจทก์ขอให้ลงโทษจำเลยตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นนั้นเห็นว่า ขณะกระทำผิดจำเลยอายุเพียง 17 ปีเศษ และไม่ปรากฏว่าเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน จึงเห็นสมควรกำหนดโทษที่จะลงแก่จำเลยใหม่และให้โอกาสจำเลยได้กลับตัวประพฤติตนเป็นพลเมืองดีต่อไป โดยการรอการลงโทษไว้ ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องโจทก์ ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย ฎีกาโจทก์ฟังขึ้น
พิพากษากลับว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา365(3) ประกอบมาตรา 364 จำเลยอายุ 17 ปีเศษ ลดมาตราส่วนโทษให้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 76 หนึ่งในสามแล้ว จำคุก 6 เดือน และปรับ2,000 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56มีกำหนด 2 ปี โดยกำหนดเงื่อนไขเพื่อคุมประพฤติจำเลย ให้จำเลยมารายงานตัวต่อจ่าศาลของศาลชั้นต้น 2 เดือนต่อครั้งติดต่อกันเป็นเวลา1 ปี.