คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 772/2523

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ในสำนวนอีกคดีหนึ่งซึ่งผู้ร้องคดีนี้เป็นโจทก์ฟ้อง ฮ. (ภรรยาจำเลยคดีนี้) ให้ชำระหนี้เงินเกี่ยวกับการเล่นแชร์ ปรากฏว่าผู้ร้องยื่นใบแต่งทนายแต่งตั้งให้ ส.เป็นทนายความ ส.จึงย่อมมีอำนาจดำเนินกระบวนพิจารณาใด ๆ แทนคู่ความได้ตามที่เห็นสมควร เพื่อรักษาผลประโยชน์ของคู่ความตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 61, 62 ดังนั้น การที่ ส.ทนายความมายื่นคำร้องเพื่อขอกันส่วนและแยกสินสมรสของ ฮ.จำเลยในอีกคดีหนึ่งดังกล่าวออกจากทรัพย์สินที่โจทก์อ้างว่าเป็นของจำเลยและโจทก์นำยึดไว้ในคดีนี้ จึงมีอำนาจทำได้โดยไม่ต้องแต่ทนายใหม่ และแม้ ส.จะยื่นคำร้องขอกันส่วนจำนวนเงินที่ขายทอดตลาดคดีนี้มาครั้งหนึ่งแล้วถอนไปก็ตาม ก็อาจร้องขอกันส่วนใหม่ได้โดยไม่ต้องมีใบแต่งทนายใหม่ เพราะกรณีนี้ทนายความในคดีเดิมมีอำนาจทำได้ดังกล่าวมาแล้ว
ผู้ร้องเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาของ ฮ.ในอีกคดีหนึ่ง ย่อมมีสิทธิบังคับชำระหนี้จากทรัพย์สินของ ฮ.ได้ เมื่อทรัพย์ที่โจทก์ยึดเพื่อขายทอดตลาดในคดีนี้เป็นทรัพย์ที่ ฮ.มีกรรมสิทธิ์รวมอยู่ด้วย การขายทอดตลาดทรัพย์ดังกล่าวย่อมกระทบกระทั่งถึงสิทธิของผู้ร้อง ผู้ร้องจึงอยู่ในฐานะบุคคลภายนอกที่จะร้องขอกันส่วนของ ฮ.เพื่อบังคับคดีได้ด้วยสิทธิของผู้ร้องเองตามบทบัญญัติในมาตรา 287 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง หาจำต้องใช้สิทธิเรียกร้องของ ฮ.ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 233, 234 ไม่

ย่อยาว

โจทก์นำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดทรัพย์ของจำเลยเพื่อชำระหนี้ตามคำพิพากษาเจ้าพนักงานบังคับคดี ขายทอดตลาดทรัพย์ได้เงิน ๓๗๖,๐๐๐ บาท ผู้ร้องยื่นคำร้องว่าผู้ร้องเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาของนางฮวยภริยาจำเลย ในอีกคดีหนึ่งของศาลเดียวกันทรัพย์ที่ขายทอดตลาดดังกล่าวเป็นกรรมสิทธิรวมระหว่างจำเลยกับนางฮวย เมื่อศาลขายทอดตลาดแล้วนางฮวยไม่ใช้สิทธิเรียกร้องขอกันส่วนของตน เป็นเหตุให้ผู้ร้องเสียประโยชน์ผู้ร้องจึงใช้สิทธิเรียกร้องของนางฮวยขอกันส่วนจำนวนเงินที่ได้จากการขายทอดตลาดดังกล่าวครึ่งหนึ่ง
โจทก์คัดค้านว่า ที่ดินตามคำร้องเป็นสินส่วนตัวของจำเลย ขอให้ยกคำร้อง
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า ผู้ร้องขอกันส่วนโดยใช้สิทธิเรียกร้องของนางฮวย แต่ผู้ร้องหาได้ขอหมายเรียกนางฮวยลูกหนี้ตามคำพิพากษาเข้ามาในคดี ไม่ชอบด้วยมาตรา ๒๓๔ แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ คำร้องนี้นายสิริวัฒน์ทนายความเป็นผู้ลงชื่อ เมื่อผู้ร้องไม่ได้แต่งทนายเข้ามาจึงเป็นคำร้องที่ไม่ชอบแม้ผู้ร้องจะได้เคยแต่งนายสิริวัฒน์ยื่นคำร้องขอกันส่วนเข้ามาครั้งหนึ่งแล้ว แต่ก็ได้ถอนคำร้องนั้นได้ ซึ่งรวมถึงการถอนทนายความ เมื่อผู้ร้องร้องขอกันส่วนใหม่ก็ชอบที่จะแต่งทนายเข้ามาใหม่ คดีไม่จำต้องวินิจฉัยข้อเท็จจริง ให้ยกคำร้อง
ผู้ร้องอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้กันส่วนเงินจากการขายทอดตลาดให้นางฮวยครึ่งหนึ่งตามคำร้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงฟังได้ว่านางฮวยเป็นภริยาโดยชอบด้วยกฎหมายของจำเลย และเป็นลูกหนี้ตามคำพิพากษาของผู้ร้องในคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ ๒/๒๕๒๑ ของศาลจังหวัดนครสวรรค์ เมื่อวันที่ ๕ พฤษภาคม ๒๕๒๑ ผู้ร้องได้แต่งตั้งนายสิริวัฒน์เป็นทนายความยื่นคำร้องขอกันส่วนเงินที่ขายทอดตลาดในคดีนี้มาครั้งหนึ่งแล้ว โดยใช้สิทธิเรียกร้องของนางฮวยลูกหนี้ตามคำพิพากษาและต่อมาได้ถอนคำร้องดังกล่าวเสีย นายสิริวัฒน์ทนายได้ยื่นคำร้องทำนองเดียวกันนั้นอีกและลงชื่อในคำร้องด้วยตนเองโดยไม่มีใบแต่งทนายของนางฮวย
ข้อวินิจฉัยประการแรกว่านายสิริวัฒน์ทนายความมีอำนาจยื่นคำร้องฉบับนี้โดยไม่มีใบแต่งทนายความแทนผู้ร้องได้หรือไม่ ศาลฎีกาพิจารณาแล้วในสำนวนคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ ๒/๒๕๒๑ ของศาลจังหวัดนครสวรรค์ซึ่งนายสุกรีผู้ร้องคดีนี้เป็นโจทก์ฟ้องนางฮวยให้ชำระเงินเกี่ยวกับการเล่นแชร์นั้น ปรากฏว่านายสุกรียื่นใบแต่งทนายแต่งตั้งให้นายสิริวัฒน์เป็นทนายความ นายสิริวัฒน์จึงย่อมมีอำนาจดำเนินกระบวนพิจารณาใด ๆ แทนคู่ความได้ตามที่เห็นสมควรเพื่อรักษาผลประโยชน์ของคู่ความตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๖๑, ๖๒ ดังนี้การที่นายสิริวัฒน์ทนายความมายื่นคำร้องเพื่อขอกันส่วนและแยกสินสมรสของนางฮวยจำเลยในคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ ๒/๒๕๒๑ ของศาลชั้นต้นดังกล่าว ออกจากทรัพย์สินที่โจทก์กล่าวอ้างว่าเป็นของนายสุขเย็น และโจทก์นำยึดไว้ในคดีนี้ จึงมีอำนาจทำได้โดยไม่ต้องแต่งทนายใหม่ และแม้นายสิริวัฒน์ทนายโจทก์ในคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ ๒/๒๕๒๑ ของศาลชั้นต้นจะได้ยื่นคำร้องขอกันส่วนจำนวนเงินที่ขายทอดตลาดในคดีนี้มาครั้งหนึ่งแล้วถอนไปก็ตาม ก็อาจร้องขอกันส่วนนั้นใหม่ได้โดยไม่ต้องมีใบแต่งทนายใหม่ เพราะกรณีนี้ทนายความในคดีเดิมมีอำนาจทำได้ดังกล่าวมาแล้ว ศาลฎีกาเห็นด้วยกับผลในข้อวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์
ปัญหาต่อไปมีว่า ผู้ร้องจะมาร้องขอกันส่วนในคดีนี้โดยอาศัยมาตรา ๒๘๗ แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งได้หรือไม่ พิเคราะห์แล้วผู้ร้องอ้างว่านางฮวยจำเลยในคดีแพ่งหมายแดงที่ ๒/๒๕๒๑ กับนายสุขเย็นจำเลยคดีนี้อยู่กินกันฉันสามีภรรยากันมาตั้งแต่ พ.ศ.๒๔๙๓ และมาจดทะเบียนสมรสกันเมื่อ พ.ศ.๒๕๑๖ นางฮวยกับนายสุขเย็นจำเลยเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์รวมในทรัพย์ที่ขายทอดตลาดคดีนี้ จึงขอกันส่วนเงินที่ขายทอดตลาดทรัพย์สินดังกล่าว ดังนี้ เห็นว่าผู้ร้องเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาของนางฮวยในคดีหมายเลขแดงที่ ๒/๒๕๒๑ ย่อมมีสิทธิบังคับชำระหนี้จากทรัพย์สินของนางฮวยได้ เมื่อทรัพย์ที่โจทก์ยึดเพื่อขายทอดตลาดในคดีนี้เป็นทรัพย์ที่นางฮวยมีกรรมสิทธิ์รวมอยู่ด้วย การขายทอดตลาดทรัพย์ดังกล่าวย่อมกระทบกระทั่งถึงสิทธิของผู้ร้อง ผู้ร้องจึงอยู่ในฐานะบุคคลภายนอกที่จะร้องขอกันส่วนของนางฮวยเพื่อบังคับคดีได้ด้วยสิทธิของผู้ร้องเอง ตามบทบัญญัติในมาตรา ๒๘๗ แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง หาจำต้องใช้สิทธิเรียกร้องของนางฮวยตามมาตรา ๒๓๓, ๒๓๔แห่งประมวลกฎมายแพ่งและพาณิชย์ตามที่โจทก์ฎีกาไม่
พิพากษายืน

Share