แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
จำเลยเช่าซื้อรถยนต์ของโจทก์ โจทก์เอาประกันภัยรถคันนี้ไว้โดยจำเลยเป็นผู้ชำระเบี้ยประกันภัย รถยนต์ถูกลัก โจทก์เรียกรถและราคาคืนจากจำเลยได้โดยมีอายุความ 10 ปี ตาม มาตรา 164 จำเลยจะเกี่ยงให้โจทก์เรียกเอาจากผู้รับประกันภัยไม่ได้
ย่อยาว
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยใช้ราคารถยนต์ 85,000 บาทแก่โจทก์ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ราคารถเป็น 60,000 บาท จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “ข้อเท็จจริงรับฟังได้ตามที่โจทก์จำเลยนำสืบรับกันว่า จำเลยทั้งสองเช่าซื้อรถยนต์พิพาทของโจทก์ไปได้ใช้เงินไปบางส่วน รถพิพาทก็ถูกขโมยลักไป รถพิพาทโจทก์ได้เอาประกันภัยไว้กับบริษัทสหวัฒนาประกันภัย จำกัด โดยจำเลยเป็นผู้ชำระเบี้ยประกันภัยและโจทก์เป็นผู้รับประโยชน์มีปัญหาขึ้นมาสู่ศาลฎีกา 2 ข้อ คือคดีโจทก์ขาดอายุความหรือไม่ และจำเลยทั้งสองจะต้องรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่โจทก์หรือไม่
ศาลฎีกาพิเคราะห์แล้ว ในเรื่องอายุความนั้น เห็นว่าการที่โจทก์ผู้ให้เช่าซื้อฟ้องเรียกให้จำเลยผู้เช่าซื้อส่งคืนรถยนต์ที่เช่าซื้อหรือมิฉะนั้นให้ชดใช้ราคานั้น สิทธิเรียกร้องนี้ไม่มีกฎหมายกำหนดอายุความไว้เป็นอย่างอื่น จึงมีอายุความ 10 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 164 หาใช่มีอายุความ 2 ปีตามมาตรา 165(1) และ (6) ดังจำเลยฎีกาไม่
สำหรับเรื่องความรับผิดของจำเลยทั้งสองนั้น เห็นว่าจำเลยได้เช่าซื้อรถยนต์พิพาทของโจทก์ไปตามสัญญาเช่าซื้อและค้ำประกันตามเอกสารหมาย จ.2 และ จ.3 โจทก์กับจำเลยทั้งสองเป็นคู่สัญญากัน เมื่อเกิดความเสียหายขึ้นจำเลยจะต้องรับผิดชอบต่อโจทก์โดยตรงตามเนื้อความแห่งสัญญานั้น จำเลยไม่มีสิทธิที่จะเกี่ยงให้โจทก์เรียกร้องเอาค่าเสียหายนี้จากบริษัทผู้รับประกันภัย”
พิพากษายืน