คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 772/2520

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

สลากกินแบ่งของผู้เสียหายที่จำเลยลักไป เป็นสลากกินแบ่งที่ถูกรางวัลแล้วจึงเป็นทรัพย์สินที่มีราคาเท่ากับเงินรางวัลที่จะได้รับ ซึ่งเป็นราคาทรัพย์ที่จำเลยลักไปโดยแท้จริง เมื่อจำเลยนำไปรับเงิน ผู้เสียหายย่อมหมดโอกาสที่จะได้รับเงินรางวัล เท่ากับว่าต้องสูญเสียเงินจำนวนนั้นไปเนื่องจากการกระทำผิดของจำเลยโดยตรง พนักงานอัยการจึงมีสิทธิขอให้จำเลยคืนเงินรางวัลแก่ผู้เสียหายได้(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 4/2520)

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยลักสลากกินแบ่งรัฐบาลของผู้เสียหายไป 1 ฉบับ เป็นสลากที่ถูกรางวัลที่ 4 มีมูลค่าจะได้รับเงินรางวัลจากกองสลากกินแบ่งรัฐบาลเป็นจำนวน 25,000 บาท จำเลยนำไปรับเงินรางวัลแล้ว ขอให้ลงโทษและให้จำเลยคืนเงินรางวัล 25,000 บาทแก่ผู้เสียหาย

จำเลยให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 334 ให้จำคุก 6 เดือน และให้จำเลยคืนเงินรางวัล 25,000 บาทแก่ผู้เสียหาย

จำเลยอุทธรณ์ขอให้ยกฟ้อง

ศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงเช่นเดียวกับศาลชั้นต้น แต่เห็นว่าพนักงานอัยการโจทก์ไม่มีสิทธิขอให้จำเลยคืนเงินรางวัลแก่ผู้เสียหาย พิพากษาแก้ เป็นว่าให้ยกคำขอที่ให้จำเลยคืนเงินรางวัล นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีนี้ข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยลักสลากกินแบ่งรัฐบาลของผู้เสียหายที่ถูกรางวัลมีมูลค่าที่จะได้รับเงินจากกองสลากกินแบ่งรัฐบาลเป็นจำนวน 25,000 บาท และจำเลยได้นำสลากไปรับเงินรางวัลแล้ว ศาลฎีกาโดยที่ประชุมใหญ่เห็นว่า สลากกินแบ่งรัฐบาลที่จำเลยลักไปนั้นเป็นสลากกินแบ่งที่ถูกรางวัลแล้ว จึงเป็นทรัพย์สินที่มีราคาเท่ากับเงินรางวัลที่จะได้รับ ซึ่งเป็นราคาทรัพย์ที่จำเลยลักไปโดยแท้จริง เมื่อจำเลยนำไปรับเงิน ผู้เสียหายย่อมหมดโอกาสที่จะได้รับเงินรางวัล เท่ากับว่าต้องสูญเสียเงินจำนวนดังกล่าวไปเนื่องจากการกระทำผิดของจำเลยโดยตรง พนักงานอัยการจึงมีสิทธิ ขอให้จำเลยคืนเงินรางวัลแก่ผู้เสียหายได้

พิพากษาแก้ ให้บังคับคดีไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

Share