คำสั่งคำร้องที่ 2899/2538

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า ฎีกาของจำเลยเป็นการโต้เถียงดุลพินิจในการลงโทษของศาลอุทธรณ์จึงเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 ประกอบพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแขวงและวิธีพิจารณาความอาญา ในศาลแขวง พ.ศ. 2499 มาตรา 4 จำเลยเห็นว่า ฎีกาที่ว่า ข้อเท็จจริงในสำนวนรับฟังได้ว่า จำเลยชำระหนี้ให้โจทก์บางส่วนแล้ว การที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า จำเลยไม่บรรเทาผลร้ายด้วยการชำระหนี้ ไม่มีเหตุอันควร รอการลงโทษ เป็นการวินิจฉัยนอกข้อเท็จจริงนั้น เป็นปัญหา ข้อกฎหมาย โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของจำเลยไว้พิจารณาต่อไป หมายเหตุ ไม่ปรากฏหลักฐานในสำนวนว่าโจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้วหรือไม่ ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว เห็นว่าคดีมีมูล ให้ประทับฟ้อง ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2534 มาตรา 4 เป็นการกระทำความผิดหลายกรรม ให้ลงโทษทุก กรรม เป็นกระทงความผิด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 จำคุกกระทงละ 2 เดือน รวมจำคุก 6 เดือน จำเลยให้การรับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 3 เดือน ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาดังกล่าว(อันดับ 71) จำเลยจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 72)

คำสั่ง พิเคราะห์แล้ว ที่จำเลยฎีกาว่า จำเลยชำระหนี้ให้โจทก์ บางส่วนแล้ว ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าจำเลยไม่บรรเทาผลร้ายด้วยการชำระหนี้ ไม่มีเหตุอันควรรอการลงโทษ เป็นการวินิจฉัยนอกข้อเท็จจริงนั้นเป็นการโต้เถียงดุลพินิจในการลงโทษของศาลอุทธรณ์ จึงเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218ประกอบพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแขวงและวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวง พ.ศ. 2499 มาตรา 4 ที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่ง ไม่รับฎีกาของจำเลยจึงชอบแล้ว ยกคำร้อง

Share