คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 772/2511

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ที่ดินรกร้างว่างเปล่าซึ่งทางการประกาศหวงห้ามสงวนไว้เพื่อผังเมืองและผู้ว่าราชการจังหวัดแบ่งให้กรมราชทัณฑ์ใช้ปลูกสร้างที่ทำการเรือนจำ เรือนขัง โรงงานบ้านพักพัศดี และมีที่ดินเหลือไว้เพื่อใช้ประโยชน์ในราชการเรือนจำด้วยนั้น. ย่อมเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินประเภททรัพย์สินใช้เพื่อประโยชน์ของแผ่นดินโดยเฉพาะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1304(3)
โจทก์ฟ้องขอให้ศาลพิพากษาว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์และให้ขับไล่จำเลยศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาเกินเลยถึงที่นอกพิพาทด้วย ย่อมเป็นการนอกฟ้องนอกประเด็นเกินคำขอ

ย่อยาว

คดีทั้งสองสำนวนนี้ศาลพิจารณาและพิพากษารวมกัน โดยโจทก์ฟ้องว่าจำเลยได้บุกรุกที่ดินราชพัสดุ อันเป็นกรรมสิทธิ์ของรัฐบาลและเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน ซึ่งเรือนจำอำเภอตะกั่วป่ากรมราชทัณฑ์ได้ใช้ประโยชน์ตั้งสถานที่ราชการและครอบครองทำประโยชน์ในราชการ ขอให้แสดงว่าที่พิพาทเป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์และขับไล่จำเลย
จำเลยทั้งสองต่อสู้ว่า ที่พิพาทไม่ใช่ที่ดินราชพัสดุ แต่เป็นส่วนหนึ่งของที่ดินจำเลย ซึ่งได้ครอบครองตลอดมา ทางการไม่เคยประกาศหวงห้าม ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นฟังว่า ได้มีการประกาศเขตหวงห้ามที่ดินซึ่งเป็นป่ารกร้างว่างเปล่าสงวนไว้เพื่อผังเมืองเป็นการใช้ประโยชน์ร่วมกันที่ดินจึงเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินที่พิพาทเป็นส่วนหนึ่งของที่ดินดังกล่าว พิพากษาว่า ที่ดินภายในเขตสีเหลืองซึ่งรวมทั้งที่พิพาทเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน ให้ขับไล่จำเลย
จำเลยทั้งสองอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยทั้งสองฎีกา
ศาลฎีกาฟังว่า ที่พิพาทเป็นส่วนหนึ่งของที่ดินซึ่งทางการได้ประกาศหวงห้ามเพื่อการผังเมือง และผู้ว่าราชการจังหวัดได้จัดแบ่งให้กับกรมราชทัณฑ์ เพื่อใช้ประโยชน์ในราชการของเรือนจำอำเภอตะกั่วป่ากรมราชทัณฑ์ได้สร้างเป็นที่ทำการเรือนจำ เรือนขังชายหญิง โรงงานบ้านพักพัศดี และมีที่ดินเหลือไว้เพื่อใช้ประโยชน์ในราชการของเรือนจำด้วย จึงเป็นทรัพย์ใช้เพื่อประโยชน์ของแผ่นดินโดยเฉพาะย่อมเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา ๑๓๐๔(๓) และได้ขึ้นทะเบียนเป็นที่ราชพัสดุของกระทรวงการคลังแล้ว เมื่อจำเลยบุกรุก กระทรวงการคลังย่อมมีอำนาจเป็นโจทก์ฟ้องขับไล่ได้
แต่ที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาต้องกันว่า ที่ดินภายในเขตเส้นสีเหลือง ซึ่งรวมทั้งที่พิพาทเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินนั้นศาลฎีกาเห็นว่า คดีนี้พิพาทกันเฉพาะที่พิพาท การที่พิพากษาเกินเลยไปถึงที่นอกพิพาทด้วย ย่อมเป็นการนอกฟ้องนอกประเด็น เกินคำขอ
พิพากษาแก้ว่า ที่พิพาทเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

Share