คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 771/2516

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ภริยาโจทก์ยกที่ดินให้จำเลยโดยทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ และโจทก์เป็นผู้ให้ความยินยอมในฐานะสามีถึงหากที่ดินนั้นจะเป็นของโจทก์และภริยาร่วมกัน เมื่อเอกสารมีข้อความชัดแจ้งว่าภริยาโจทก์เป็นผู้ยกที่ดินให้จำเลย กรณีก็ต้องบังคับตามข้อความในเอกสาร ที่โจทก์ให้ความยินยอมก็เป็นเพียงอนุญาตให้ภริยาทำการผูกพันสินบริคณห์ได้เท่านั้น โจทก์หามีนิติสัมพันธ์อย่างใดกับจำเลยด้วยไม่ โจทก์จึงมิใช่ผู้ให้ทรัพย์สินแก่จำเลย และไม่มีสิทธิฟ้องเรียกถอนคืนการให้เพราะเหตุผู้รับประพฤติเนรคุณ

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ได้นางน้อยมารดาจำเลยเป็นภริยา โจทก์และนางน้อยได้ยกที่ดิน ๑ แปลงให้จำเลย ได้จดทะเบียนการให้ต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ โดยโจทก์ลงชื่อให้ความยินยอม จำเลยประพฤติเนรคุณขอให้เพิกถอนการให้
จำเลยต่อสู้ว่า โจทก์ไม่ใช่เจ้าของที่พิพาท มิได้เป็นผู้ยกที่พิพาทให้จำเลยไม่มีอำนาจฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
มีปัญหาตามฎีกาของโจทก์ว่า หากฟังข้อเท็จจริงว่าโจทก์และนางน้อยเป็นเจ้าของที่พิพาทร่วมกันมาก่อน ต่อมานางน้อยยกที่พิพาทให้จำเลย โดยทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ และโจทก์เป็นผู้ให้ความยินยอมในฐานะเป็นสามีของนางน้อยดังปรากฏตามเอกสารที่โจทก์อ้าง จะถือว่าโจทก์เป็นผู้ให้ที่พิพาทแก่จำเลยด้วยหรือไม่
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า การให้อสังหาริมทรัพย์นั้น ต้องทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา ๕๒๕ เมื่อเอกสารที่โจทก์อ้างดังกล่าวมีข้อความชัดแจ้งแล้วว่า นางน้อยผู้เดียวเป็นผู้ยกที่พิพาทให้จำเลย กรณีก็ต้องบังคับตามข้อความในเอกสาร ส่วนการที่โจทก์ให้ความยินยอม ก็มีความมุ่งหมายเพียงว่า ได้อนุญาตให้นางน้อยทำการผูกพันสินบริคณห์ได้เท่านั้น ไม่เป็นเหตุให้ถือว่าโจทก์ได้มีนิติสัมพันธ์อย่างใดกับจำเลยด้วยดังนี้ โจทก์จึงมิใช่ผู้ให้ทรัพย์สินแก่จำเลย ไม่มีสิทธิฟ้องเรียกถอนคืนการให้เพราะเหตุจำเลยประพฤติเนรคุณต่อโจทก์
พิพากษายืน

Share