แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยนำเฮโรอีนของกลางทั้งหมดไปจำหน่ายให้แก่สายลับใน คราวเดียวกัน ไม่มีเฮโรอีนจำนวนอื่นเหลืออยู่ที่จำเลยอีก การกระทำของจำเลย จึงเป็นความผิดฐานมีเฮโรอีนไว้ในครอบครอง เพื่อจำหน่ายและจำหน่ายเฮโรอีนอันเป็นกรรมเดียวเป็น ความผิดต่อกฎหมายหลายบท แต่ละบทมีโทษเท่ากัน ให้ลงโทษฐาน จำหน่ายเฮโรอีน
ย่อยาว
โจทก์ฟ้อง ขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติยาเสพติด ให้โทษ พ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา ๗(๑), ๘, ๑๕, ๖๖, ๑๐๒ และริบของกลาง
จำเลยให้การปฎิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติ ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา ๑๕ วรรคหนึ่ง, ๖๖ วรรคหนึ่ง การกระทำของจำเลยเป็นความผิดกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท แต่ละ บทมีโทษเท่ากันให้ลงโทษฐานจำหน่ายเฮโรอีนโดยไม่ได้รับอนุญาต จำคุก ๕ ปี คำให้การรับสารภาพของจำเลยในชั้นจับกุมเป็นประโยชน์ แก่การพิจารณาอยู่บ้าง มีเหตุบรรเทาโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๗๘ เห็นสมควรลดโทษให้หนึ่งในสาม คงจำคุก ๓ ปี ๔ เดือน ริบเฮโรอีนของกลาง
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค ๓ พิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง ริบของกลาง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า จำเลยนำเฮโรอีน ของกลางจำนวน ๓ หลอด น้ำหนัก ๒.๖๖ กรัม ไปจำหน่ายให้แก่สายลับ และเป็นการจำหน่ายเฮโรอีนของกลางไปทั้งหมดในคราวเดียวกัน ไม่มี เฮโรอีนจำนวนอื่นเหลืออยู่ที่จำเลยอีก การกระทำของจำเลยจึงเป็น ความผิดฐานมีเฮโรอีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและจำหน่ายเฮโรอีน อันเป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบทตามฟ้อง
พิพากษากลับ ให้บังคับคดีไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น