แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ผู้เสียหายขอเข้าเป็นโจทก์ร่วม ฟ้องว่าจำเลยลักทรัพย์ ขอให้ลงโทษและคืนทรัพย์หรือราคา เมื่อศาลชั้นต้นยกฟ้อง อัยการ โจทก์ไม่อุทธรณ์ แต่ผู้เสียหายซึ่งเป็นโจทก์ร่วมอุทธรณ์ฝ่ายเดียว โดยเสียค่าธรรมเนียมในส่วนที่ขอให้จำเลยคืนหรือใช้ราคาทรัพย์อ่างคดีแพ่ง ดังนั้นเฉพาะที่เกี่ยวกับคำขอดังกล่าวนี้ศาลจึงสั่งให้ยกเสีย.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทั้งสามสมคบกันลักข้าวเปลือกของนายหมองไป ๒๐ ถัง ราคา ๒๐๐ บาท ขอให้ลงโทษ
จำเลยทั้งสามปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นเห็นว่าคำพยานหลักฐานของโจทก์ยังไม่พอฟังว่าจำเลยทำผิดดังข้อหา พิพากษายกฟ้องโจทก์
ผู้เสียหายอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้จำคุกจำเลยคนละ ๑ ปี ตาม ม.๒๙๓ ข้อ ๑,๑๑ และให้จำเลยทั้ง ๓ คนร่วมกันคืนหรือใช้ราคาข้าวเปลือก ๑๕๐ บาท แก่ผู้เสียหาย
จำเลยทั้ ๓ ฎีกาต่อมา
ศาลฎีกาคงฟังว่าจำเลยทั้ง ๓ กระทำผิดตามฟ้องโจทก์จริง คำพยานฐานที่ของจำเลยไม่น้ำหนัก และเห็นว่าศาลอุทธรณ์ชี้ขาดวางบทกำหนดโทษจำเลยมาชอบด้วยรูปคดีแล้ว แต่ที่ให้จำเลยคืนหรือใช้ราคาข้าวเปลือก ๑๕๐ บาท แก่ผู้เสียหายด้วยนั้น เป็นการคลาดเคลื่อนอยู่เพราะคำฟ้องอุทธรณ์ของผู้เสียหายที่ขอให้จำเลยคืนหรือใช้ราคาทรัพย์ที่เสียหาย หาได้เสียค่าธรรมเนียมอย่างคดีแพ่งไม่
พิพากษาแก้เฉพาะข้อที่ให้จำเลยคืนหรือใช้ราคาข้าวเปลือก ๑๕๐ บาทนั้น เป็นยกให้เสีย นอกจากนี้ให้บังคับคดีไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์.