แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
แม้โจทก์ไม่มีประจักษ์พยานที่ได้รู้เห็นขณะที่จำเลยเข้าไปในห้องนอนของนางน. ผู้ตายเพื่อฆ่าข่มขืนผู้ตายและพยายามฆ่าเด็กชายจ. แต่โจทก์มีพยานแวดล้อมคือพนักงานสอบสวนตรวจพบเส้นขนอวัยวะเพศของจำเลยตกอยู่ในห้องที่เกิดเหตุและที่ร่างกายของจำเลยพบร่องรอยของการต่อสู้เป็นบาดแผลรอยถูกเล็บมือข่วน2แห่งที่ปลายแขนซ้ายด้านนอกและด้านหน้าอีกทั้งตรวจค้นพบของกลางเป็นนาฬิกาข้อมือของจำเลยที่สายหนังมีรอยคราบโลหิตติดอยู่ดังนี้พยานแวดล้อมของโจทก์จึงสอดคล้องเชื่อมโยงกันโดยตลอดเพียงพอฟังลงโทษจำเลยได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยใช้กุญแจเลื่อนขนาดใหญ่เป็นอาวุธตีนางนภา มีชนะ อย่างแรงตามบริเวณศีรษะและใบหน้าหลายครั้งโดยเจตนาฆ่า เป็นเหตุให้ผู้ตายถึงแก่ความตายและจำเลยยังใช้กุญแจเลื่อนดังกล่าวเป็นอาวุธตีเด็กชายจิรพงษ์ อารยพันธ์ผู้เสียหายหลายครั้งโดยเจตนาฆ่า จำเลยกระทำไปตลอดแล้วแต่การกระทำไม่บรรลุผลเพราะแพทย์ทำการรักษาผู้เสียหายทันท่วงที ผู้เสียหายจึงไม่ถึงแก่ความตายเพียงแต่ได้รับอันตรายแก่กาย ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 288 ประกอบ 80
จำเลยให้การปฎิเสธ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 288 ประกอบ 80 และ 90 ให้ลงโทษตามมาตรา 288 ซึ่งเป็นบทที่มีโทษหนักที่สุด จำคุกตลอดชีวิต
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “พิเคราะห์แล้ว ข้อเท็จจริงฟังได้โดยจำเลยไม่ฎีกาโต้แย้งว่า เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2534 เวลา19 นาฬิกา จำเลยกับพวกมาดื่มสุราที่บ้านนายโล้ง อารยพันธ์สามีผู้ตาย โดยนายโล้งร่วมดื่มด้วย ผู้ตายช่วยทำกับข้าวและกับแกล้มมาให้รับประทาน เวลา 20 นาฬิกา จำเลยกับพวกไปงานศพที่วัดสระกระโจม ส่วนนายโล้งสามีผู้ตายขับรถจักรยานยนต์ตามไปเวลา 24 นาฬิกาของวันเดียวกัน เมื่อนายโล้งสามีผู้ตายกลับมาถึงบ้าน พบผู้ตายนอนตายอยู่บนเตียงในห้องนอนภายในบ้าน บริเวณศีรษะและใบหน้าถูกตีด้วยของแข็งไม่มีคมหลายแห่งทำให้กะโหลกใบหน้าแตก ขากรรไกรหัก ถึงแก่ความตายโดยเฉียบพลันและเด็กชายจิรพงษ์บุตรผู้ตาย ถูกตีที่ร่างกายหลายแห่งจนสลบ ปัญหาวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยมีว่า พยานแวดล้อมของโจทก์เพียงพอฟังลงโทษจำเลยหรือไม่ ศาลฎีกาเชื่อว่าในคืนเกิดเหตุจำเลยเข้าไปในห้องนอนของผู้ตาย เพื่อประสงค์จะร่วมประเวณีกับผู้ตายจึงมีเส้นขนอวัยวะเพศของจำเลยหลุดหล่นตกอยู่ในห้องเกิดเหตุ เมื่อผู้ตายไม่ยินยอมย่อมจะหยิกข่วนต่อสู้ ป้องกันตน จำเลยจึงมีบาดแผลรอยถูกเล็บมือข่วน2 แห่ง ที่ปลายแขนซ้ายด้านนอกและด้านหน้า เมื่อผู้ตายต่อสู้ขัดขืนจำเลยจึงใช้ของแข็งไม่มีคมตีทำร้ายผู้ตายโดยแรงบริเวณศีรษะและใบหน้าทำให้ผู้ตายถึงแก่ความตายโดยเฉียบพลัน ผลของการตีดังกล่าวทำให้โลหิตออกจากแผลผู้ตายกระจายกระเซ็นไปติดทั่วบริเวณหัวเตียงนอนหมอนและผ้าปูที่นอน รวมทั้งติดเป็นคราบที่สายหนังนาฬิกาของจำเลยด้วยพยานแวดล้อมของโจทก์ดังกล่าวสอดคล้องเชื่อมโยงกันโดยตลอดจึงเพียงพอฟังลงโทษจำเลยได้ ศาลล่างทั้งสองฟังข้อเท็จจริงว่าจำเลยฆ่าผู้ตายและพยายามฆ่าเด็กชายจิรพงษ์ ผู้เสียหายนั้นศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน