คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 769/2511

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การเช่าอสังหาริมทรัพย์ซึ่งไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือลงลายมือผู้ให้เช่าผู้เช่าจะยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้คดีหาได้ไม่
คดีฟ้องขับไล่ผู้ละเมิดออกจากอสังหาริมทรัพย์ไม่ต้องห้ามอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงเพราะมิใช่คดีฟ้องขับไล่ผู้เช่าหรือผู้อาศัย
คดีฟ้องขับไล่เป็นคดีมีคำขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันไม่อาจคำนวณราคาเป็นเงินได้มิใช่คดีมีทุนทรัพย์จึงไม่ต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 15/2511)

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเข้ามาอยู่ในห้องที่โจทก์เช่าโดยละเมิดขอให้ขับไล่ และให้จำเลยใช้ค่าเสียหาย 1,000 บาท กับค่าเสียหายนับแต่วันฟ้อง

จำเลยต่อสู้ว่า ทำสัญญาเช่ากับนางฮวยภริยาโจทก์ ซึ่งเป็นตัวแทนโจทก์ สัญญายังไม่หมดอายุ ขอให้ยกฟ้อง

ศาลชั้นต้นฟังว่า นางฮวยทำสัญญาเช่ากับจำเลยโดยโจทก์รู้เห็นยินยอม สัญญายังไม่หมดอายุ พิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์ฟังว่า นางฮวยภริยาโจทก์ไม่ได้ทำสัญญาเช่าให้จำเลยจำเลยไม่มีสิทธิจะอยู่ในห้องพิพาท พิพากษากลับ ให้ขับไล่ และให้จำเลยใช้ค่าเสียหาย

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาหยิบยกปัญหาเรื่องสิทธิอุทธรณ์ฎีกาในข้อเท็จจริงของคู่ความขึ้นวินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่ว่า คดีนี้ โจทก์ฟ้องขับไล่ผู้ละเมิดออกจากอสังหาริมทรัพย์ ไม่ใช่คดีฟ้องขับไล่ผู้เช่าหรือผู้อาศัย ไม่ต้องห้ามอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง ศาลอุทธรณ์ย่อมวินิจฉัยข้อเท็จจริงได้และคดีฟ้องขับไล่เป็นคดีมีคำขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันไม่อาจคำนวณราคาเป็นเงินได้ มิใช่คดีมีทุนทรัพย์ไม่ต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ศาลฎีกาย่อมวินิจฉัยในปัญหาข้อเท็จจริงได้

ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงตามศาลอุทธรณ์ แล้ววินิจฉัยต่อไปว่าการเช่าห้องพิพาทซึ่งเป็นอสังหาริมทรัพย์ เมื่อระหว่างโจทก์จำเลยไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือต่อกัน จำเลยจะยกกำหนดเงื่อนเวลาในสัญญาที่ทำกับบุตรโจทก์ขึ้นต่อสู้โจทก์หาได้ไม่

พิพากษายืน

Share