แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
เมื่อลูกหนี้ได้ใช้หนี้ให้แก่เจ้าหนี้เกินกว่าร้อยละ 50 แล้ว และทรัพย์สินของลูกหนี้ก็ไม่มีที่จะรวบรวมมาใช้หนี้ต่อไปจนกระทั่งปิดคดีล้มละลายแล้ว เจ้าหนี้และเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ก็ไม่คัดค้านในการที่ลูกหนี้ขอปลดจากการล้มละลาย แม้ลูกหนี้จะยังมีหนี้อีกมากก็ไม่ใช่เหตุที่ศาลจะไม่สั่งปลดจากการล้มละลายได้
ย่อยาว
คดีนี้ศาลได้มีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด แล้วได้พิพากษาให้จำเลยเป็นบุคคลล้มละลายเพื่อ พ.ศ. ๒๕๐๔ ต่อมาในปี ๒๕๐๘ จำเลยยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งปลดหรือยกเลิกการล้มละลายเพื่อให้จำเลยได้ประกอบอาชีพตั้งตัวใหม่
เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้รายงานต่อศาลเกี่ยวกับการปลดจากการล้มละลายของผู้ล้มละลายถึงกิจการ ทรัพย์สินและความประพฤติของผู้ล้มละลายว่า เหตุที่ถูกฟ้องล้มละลายเพราะจำเลยเบิกเงินเกินบัญชี และไม่ได้ชำระหนี้ โจทก์จึงได้ฟ้องให้เป็นบุคคลล้มละลาย เมื่อพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดแล้ว เจ้าหนี้ผู้เป็นโจทก์ได้ยึดทรัพย์สินของลูกหนี้ไว้ ลูกหนี้ล้มละลายได้ช่วยเหลือเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ในการรวบรวมทรัพย์สินเป็นอย่างดี จนทำให้เจ้าหนี้ได้รับชำระหนี้เกินร้อยละ ๕๐ ของจำนวนหนี้ที่ขอรับชำระหนี้ ไม่ปรากฏว่าผู้ล้มละลายประพฤติผิดกฎหมายล้มละลายอันจะมีโทษทางอาญาแต่ประการใด และหนี้สินนี้ได้เกิดขึ้นโดยสุจริต เจ้าหนี้ผู้เป็นโจทก์แถลงว่า จำเลยไม่มีทรัพย์สินที่จะพึงชำระหนี้อีกให้แก่โจทก์ได้อีก หากให้จำเลยเป็นบุคคลล้มละลายต่อไปก็คงไม่ก่อให้เกิดประโยชน์แก่เจ้าหนี้อีก จึงไม่คัดค้าน แต่ขอให้ศาลกำหนดเงื่อนไขเกี่ยวกับทรัพย์สินที่จำเลยพึงได้มาในเวลาต่อไป
ศาลชั้นต้นนัดไต่สวนคำขอปลดจากล้มละลายแล้วสั่งว่า หนี้ที่ผู้ล้มละลายยังเหลือเป็นหนี้โจทก์อยู่อีกมาก จำเลยเอาเงินโจทก์มาใช้อย่างสุรุ่ยสุร่าย จำเลยอ้างว่าเหตุผลในการขอปลดจากการล้มละลายเพียงว่าเพื่อประกอบอาชีพตั้งตัวใหม่เท่านั้น จึงยังไม่สมควรที่จะอนุญาตให้ปลดหรือยกเลิกการล้มละลาย ให้งดการปลดจากการล้มละลายไว้มีกำหนดสองปี
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า การที่ศาลจะสั่งปลดจากการล้มละลายนั้นจะต้องพิจารณาข้อเท็จจริงให้ได้ความอย่างหนึ่งอย่างใดดังกล่าวไว้ในมาตรา ๗๓ แล้วจึงมีคำสั่งอย่างหนึ่งอย่างใดหรือหลายอย่างตามมาตรา ๗๒ ข้อ (๑) ถึง (๔) จำเลยเอาเงินจากโจทก์ไปใช้อย่างสุรุ่ยสุร่าย ข้อเท็จจริงจึงต้องด้วยข้อกำหนดมาตรา ๗๓ (๔)ซึ่งศาลจะต้องสั่งอย่างหนึ่งอย่างใดหรือหลายอย่างตามมาตรา ๗๒ จะสั่งปลดหรือยกเลิกจากการล้มละลายไม่ได้ พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า เมื่อจำเลยได้ใช้หนี้ให้เจ้าหนี้เกินกว่าร้อยละ ๕๐ แล้ว และทรัพย์สินของลูกหนี้ก็ไม่มีที่จะรวบรวมมาใช้หนี้ต่อไปจนกระทั่งปิดคีดล้มละลายแล้ว เจ้าหนี้และพนักงานพิทักทรัพย์ก็ไม่คัดค้านในการที่ลูกหนี้ขอปลดจากการล้มละลาย แม้ลูกนี้จะยังมีหนี้อีกมาก ก็ไม่ใช่เหตุที่ศาลจะไม่สั่งปลดจากการล้มละลายได้
พิพากษากลับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้ปลดจำเลยจากการล้มละลาย.