คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 769/2478

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การซื้อขายได้โอนทรัพย์ที่ขายให้ผู้ซื้อแล้วแต่ยังไม่ได้ชำระราคา ไม่เรียกว่าขาดข้อตกลงชำระราคา+ ไม่เป็นโมฆะพิจารณาความแพ่ง ประมวลวิธีพิจารณาแพ่ง ม.145-148 คำพิพากษาของศาลมีผลบุคคลภายนอกได้เพียงไรศาลตัดสินในคดีที่ผู้ร้อง ๆ ขัดทรัพย์ว่า สัญญาซื้อขายระวางโจทก์จำเลยเป็นโมฆะใช้ไม่+ดังนี้ ย่อมมีผลผูกมัดของจำเลยกับผู้ร้องขัดทรัพย์นั้น หาผูกมัดโจทก์ด้วยไม่
อุทธรณ์+คืนวินิจฉัย

ย่อยาว

ข้อเท็จจริงในคดีได้ความว่า โจทก์ได้โอนขายที่ดินรวม ๕ แปลงให้แก่จำเลยโดยได้ทำกรมธรรม์ซื้อขายแลจดทะเบียนกันต่อเจ้าพนักงาน ในสัญญาซื้อขายมีข้อความว่าโจทก์ได้รับเงินไปเสร็จแล้ว ต่อมาประมาณ ๒ เดือน น.ได้ฟ้องโจทก์ในคดีนี้ขอบังคับจำนองแล้ว น.นำยึดที่ดิน ๕ แปลงนี้ จำเลยในคดีนี้ร้องขัดทรัพย์ว่าได้ซื้อที่รายนี้ไว้จากโจทก์ในที่สุดศาลฎีกาตัดสินว่าการซื้อขายระวางโจทก์กับจำเลยเป็นการสมยอม จำเลยได้ชำระเงินใช้หนี้แทนโจทก์ให้แก่ นไป น.จึงได้ถอนการยึด บัดนี้โจทก์ฟ้องจำเลยโดยกล่าวว่าการโอนขายที่ดิน ๕ แปลงนั้น จำเลยยังไม่ได้ชำระเงินให้โจทก์แลโจทก์จำเลยตกลงให้ที่ดินรวม ๓ แปลงซึ่งได้โอนกันแล้วนั้นให้เป็นการชดใช้เงินที่จำเลยออกใช้หนี้ น.แทนโจทก์ไป จึงขอให้ศาลบังคับให้จำเลยโอนที่ดินที่เหลืออีก ๒ แปลงให้โจทก์
ศาลล่างทั้ง ๒ พิพากษาให้ยกฟ้องโจทก์
โจทก์ฎีกาว่า ๑ คำพิพากษาชั้นขัดทรัพย์ย่อมมีผลผูกมัดถึงโจทก์จำเลยด้วย เพราะเป็นคู่สัญญากัน สัญญานั้นเป็นโมฆะใช้ไม่ได้ ๒.สัญญาซื้อขายขาดหลักการชำระเงิน ไม่สมบูรณ์ตามมาตรา ๔๕๓ + ข้อที่ศาลล่างวินิจฉัยว่าโจทก์ไม่ได้กล่าวอ้างว่าได้ทำขึ้นโดยสมยอมกับจำเลยจึงไม่จำเป็นต้องวินิจฉัยนั้น โจทก์ได้อ้างไว้ในฟ้องแล้วว่าศาลฎีกาชี้ขาดว่าการซื้อขายที่ดินเป็นการสมยอมสัญญาเป็นโมฆะ
ศาลฎีกาเห็นว่าตามฎีกาข้อ ๑ คำพิพากษาฎีกาชั้นขัดทรัพย์เรื่องก่อนเป็นคำชี้ขาดฉะเพาะ น.กับ จำเลย โจทก์ไม่ได้เกี่ยวข้องในคดีด้วย ย่อมมีผลผูกมัดระวาง น.กับ จำเลยเท่านั้น
ตามฎีกาข้อ ๒ เห็นว่า สัญญาซื้อขายรายนี้มีข้อตกลงจะใช้ราคาต่อกันก็ครบองค์เป็นสัญญาซื้อขายตามมาตรา ๔๕๓ แล้วข้อที่ว่าได้ชำระราคาตามข้อตกลงหรือยังนั้นไม่เป็นองค์สำคัญของมาตรา ๔๕๓ การที่ยังไม่ได้ชำระราคาจึงยังไม่เป็นเหตุทำให้สัญญาไม่สมบูรณ์ แลสัญญาจะไม่สมบูรณ์ก็ต่อเมื่อขาดข้อตกลงในการชำระราคา
ส่วนฎีกาข้อ ๓. เห็นว่าฟ้องโจทก์เป็นการแสดงให้เห็นว่าตามมูลที่ก่อให้เกิดสัญญาไม่มีประเด็นเรื่องสมยอม ส่วนข้อที่ศาลฎีกาพิพากษาในคดีขั้นขัดทรัพย์อย่างไรนั้น ย่อมมีประเด็นอีกอย่างหนึ่งแตกต่างเป็นคนละรูป จะถือรวมเป็นประเด็นข้อเดียวกันไม่ได้ จึงพิพากษายืนตามศาลล่าง

Share