คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 768/2510

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

พระราชบัญญัติภาษีโรงเรือนและที่ดิน พ.ศ. 2475 มาตรา 8 วรรค 2 บัญญัติเพียงให้เอาค่าเช่าเป็นหลักคำนวณค่ารายปีเท่านั้น มิใช่จะต้องคำนวณค่ารายปีจากค่าเช่าที่ผู้ให้เช่าได้รับตามสัญญาที่ได้ทำไว้ต่อกันเสมอไปไม่ ถ้าเป็นกรณีที่พนักงานเจ้าหน้าที่เห็นว่าค่าเช่านั้นมิใช่จำนวนเงินอันสมควรจะให้เช่าได้ในปีหนึ่ง ๆ พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจแก้หรือคำนวณใหม่ได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นเจ้าของที่ดิน ได้ตกลงให้ผู้เช่าออกเงินปลูกสร้างห้องแถวรวม ๑๓ รายลงในที่ดินของโจทก์ และโจทก์ได้ทำสัญญาประนีประนอมกับผู้เช่าที่อำเภอว่าผู้เช่ายอมยกห้องแถวที่ได้ปลูกสร้างนั้นให้โจทก์ และโจทก์ยอมให้ผู้เช่ามีสิทธิ์เช่าห้องแถวดังกล่าวมีกำหนด ๑๐ ปี โดยคิดค่าเช่าตามที่ได้ตกลงไว้ในสัญญาประนีประนอม รวมค่าเช่าตามสัญญาเป็นเงินเดือนละ ๑,๔๕๕ บาท เป็นค่ารายปี ๑๗,๔๖๐ บาท ต้องเสียภาษีเป็นเงิน ๒,๑๘๒.๕๐ บาท แต่จำเลยได้ประเมินเป็นค่ารายปี ๔๑,๖๐๐ บาท ซึ่งจะต้องเสียภาษี ๕,๒๐๐ บาท สูงกว่าที่โจทก์ควรจะต้องเสียจริง ๓,๐๑๙.๕๐ บาท โจทก์เห็นว่าโจทก์ควรต้องเสียเท่าที่โจทก์มีรายได้ ขอให้บังคับจำเลยคืนเงินค่าภาษีที่เรียกเก็บเกิน
จำเลยให้การว่าได้ประเมินค่าภาษีชอบด้วยบทกฎหมายที่ให้อำนาจไว้ และชอบด้วยข้อเท็จจริงตามหลักฐานที่มีอยู่ เพราะค่าเช่าที่โจทก์ได้รับหาใช่ค่าเช่าที่แท้จริงอันสมควรที่จะให้เช่าได้ในอัตราเช่นนี้ไม่
ศาลชั้นต้นเห็นว่า ผู้ให้เช่ามีหน้าที่ต้องให้ผู้เช่าได้ใช้ทรัพย์ที่เช่าตามที่ตกลงไว้ในสัญญาประนีประนอม โจทก์ไม่มีความชอบธรรมที่จะเปลี่ยนแปลงอัตราค่าเช่าได้ จำเลยจึงไม่มีเหตุจะคำนวณค่ารายปีเกินกว่าค่าเช่าที่ผู้ให้เช่าได้รับจริง พิพากษาให้จำเลยที่ ๑ คืนค่าภาษีที่เรียกเก็บเกิน ยกฟ้องจำเลยที่ ๒
จำเลยที่ ๑ อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ เป็นให้ยกฟ้องสำหรับจำเลยที่ ๑ ด้วย
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า พระราชบัญญัติภาษีโรงเรือนและที่ดิน พ.ศ. ๒๔๗๕ มาตรา ๘ วรรค ๒ บัญญัติเพียงให้เอาค่าเช่าเป็นหลักคำนวณค่ารายปีเท่านั้น มิใช่จะคำนวณค่ารายปีจากค่าเช่าที่ผู้ให้เช่าได้รับตามสัญญาที่ได้ทำไว้ต่อกันเสมอไปไม่ กรณีที่พนักงานเจ้าหน้าที่เห็นว่าค่าเช่านั้นมิใช่จำนวนเงินอันสมควรจะให้เช่าได้ ในปีหนึ่ง ๆ พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจแก้หรือคำนวณใหม่ได้ (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ (+++/๒๔๗๙)
จึงพิพากษายืน.

Share