คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 768/2492

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คดีหาว่ามีมูลฝิ่นโดยไม่ได้รับอนุญาตเมื่อไม่มีราคามูลฝิ่นซึ่งรัฐบาลขายในท้องที่ และเวลาเกิดเหตุที่จะตั้งเป็นเกณฑ์คำนวณค่าปรับ ก็ไม่มีทางที่จะคำนวณปรับจำเลย 5 เท่าของราคามูลฝิ่นได้ จึงต้องปรับจำเลยตามอัตราคั่นต่ำ คือ 50 บาท ตาม พ.ร.บ.ฝิ่น (ฉะบับที่ 4) 2481 มาตรา 6.
(อ้างฎีกาที่ 1037/2482)

ย่อยาว

ได้ความว่า จำเลยมีมูลฝิ่นหนัก ๕๗ กรัม กับกล้องสูบฝิ่น ๒ คัน และตั้งตะเกียงสูบฝิ่นนอกร้าน โดยมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลย และจำเลยให้การรับสารภาพ ศาลชั้นต้นพิพากษาปรับจำเลย ๕ เท่าของราคามูลฝิ่น กรัมละ ๔ บาท เป็นเงินคนละ ๑๑๔๐ บาท ตามพระราชบัญญัติฝิ่น (ฉะบับที่ ๔) ๒๔๘๑ มาตรา ๖ กับปรับฐานมีกล้องตาม พ.ร.บ.ฝิ่น ๒๔๗๒ มาตรา ๕๓ อีกคนละ ๒๐ บาท รวมปรับคนละ ๑๑๖๐ บาท ลดฐานรับสารภาพ คงปรับคนละ ๕๘๐ บาท ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกาว่า เรื่องนี้ราคามูลฝิ่น ไม่มีขายในท้องที่เกิดเหตุ ควรปรับจำเลยตามอัตราคั่นต่ำของ พ.ร.บ.ฝิ่น
ศาลฎีกาเห็นว่า ตามฟ้องโจทก์ที่กล่าวว่า ราคาฝิ่นที่รัฐบาลจำหน่ายในท้องที่และเวลาเกิดเหตุ กรัมละ ๔๐ บาทนั้น แท้จริงเป็นเรื่องราคาเนื้อฝิ่นดังปรากฎตามรายงานชันสูตรของกลางสรรพสามิตต์อำเภอ ส่วนราคามูลฝิ่นที่รัฐบาลขายในท้องที่และเวลาเกิดเหตุ หามีไม่ ในรายงานตามชันสูตรของกลาง ปรากฎแต่ว่าทางการรับซื้อมูลฝิ่นบริสุทธิ์กรัมละ ๒ บาท เมื่อเป็นเช่นนี้ก็เป็นอันว่า รัฐบาลไม่ได้ขายมูลฝิ่นในท้องที่และเวลาเกิดเหตุในเรื่องนี้ และเมื่อไม่มีราคามูลฝิ่นรัฐบาลขายในท้องที่และเวลาเกิดเหตุที่จะตั้งเป็นเกณฑ์คำนวณค่าปรับ ก็ไม่มีทางที่จะคำนวณปรับ ๕ เท่าของราคามูลฝิ่นได้ จึงต้องปรับจำเลยตามอัตราคั่นต่ำในกฎหมาย
พิพากษาแก้ว่า ให้ปรับจำเลยฐานมีมูลฝิ่นไม่ได้รับอนุญาตรวมกัน ๕๐ บาทกะทงหนึ่ง ฐานมีกล้องสูบฝิ่นโดยไม่ได้รับอนุญาตคนละ ๒๐ บาทกะทงหนึ่ง ลดฐานรับสารภาพกึ่งหนึ่ง คงปรับรวมกัน ๒๕ บาทกะทงหนึ่ง กับปรับคนละ ๑๐ บาทกะทงหนึ่ง

Share