แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ฟ้องว่าโจทก์เช่าแผงลอยจากกรมประชาสงเคราะห์ จำเลยอาศัย ขอให้ขับไล่จำเลยปฏิเสธว่าไม่ได้อาศัยและต่อสู้ว่าจำเลยอยู่ในแผงลอยรายพิพาทมาก่อนเวลาที่โจทก์อ้างว่าเช่าจากกรมประชาสงเคราะห์เช่นนี้ถ้าเป็นจริงอย่างที่จำเลยต่อสู้โจทก์ชอบจะฟ้องกรมประชาสงเคราะห์ ที่ไม่สามารถส่งมอบแผงลอยรายพิพาทให้โจทก์ได้โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องจำเลย
ศาลชั้นต้นฟังว่าโจทก์เป็นผู้เช่าจากกรมประชาสงเคราะห์และมิได้เช่าแทนจำเลยพิพากษาให้ขับไล่จำเลย
จำเลยอุทธรณ์ว่าแม้จะฟังว่าโจทก์ทำสัญญาเช่าเพื่อตนเองโจทก์ก็ไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยเพราะจำเลยครอบครองแผลลอยรายพิพาทมาก่อนโจทก์ทำสัญญาเช่าดังนี้อุทธรณ์ของจำเลยเป็นปัญหาข้อกฎหมาย ว่าถ้าข้อเท็จจริงได้ความว่าจำเลยครอบครองแผงลอยรายพิพาทมาก่อนโจทก์ทำสัญญาเช่ากับกรมประชาสงเคราะห์โจทก์จะมีอำนาจฟ้องขอให้ขับไล่จำเลยหรือไม่อุทธรณ์ข้อนี้จำเลยมิได้โต้เถียงข้อเท็จจริงที่ศาลชั้นต้นฟังมาว่าโจทก์เป็นผู้เช่าแทนจำเลยอุทธรณ์ของจำเลยไม่ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา224
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าโจทก์เป็นผู้เช่าแผงลอยเลขที่ 79 สี่แยกมหานาคจากกรมประชาสงเคราะห์เพื่อจำหน่ายของชำแต่ พ.ศ. 2492 ตลอดมาจนถึงวันฟ้อง แต่โจทก์ป่วยค้าไม่ได้จำเลยขอเป็นคนเฝ้าและประกอบอาชีพในแผงลอยแทนชั่วคราว โจทก์ต้องการเมื่อไรจะย้ายออกไป โจทก์บอกให้จำเลยออกจำเลยไม่ยอมออก จึงขอให้ศาลขับไล่
จำเลยต่อสู้ว่าไม่เคยขอเฝ้าและขออาศัยประกอบอาชีพ จำเลยได้เข้าครอบครองอยู่อาศัยและค้าขายของชำในร้านรายพิพาทตั้งแต่ก่อนพ.ศ. 2492 จนบัดนี้ สัญญาเช่าระหว่างโจทก์กับกรมประชาสงเคราะห์จะมีหรือไม่ไม่ทราบถ้ามีก็ทำแทนจำเลย จำเลยเป็นผู้เช่าจากกรมประชาสงเคราะห์ แม้จะฟังว่าโจทก์ได้ทำสัญญาเช่ากับกรมประชาสงเคราะห์ โจทก์ก็ไม่มีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลย เพราะจำเลยเป็นผู้ครอบครองมาก่อนที่โจทก์จะได้ทำสัญญาเช่า โจทก์ชอบที่จะไปว่ากล่าวเอากับกรมประชาสงเคราะห์ผู้ให้เช่าในฐานไม่สามารถส่งมอบสถานที่เช่าให้ได้
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ขับไล่จำเลยและบริวารออกจากแผงลอยรายพิพาท
จำเลยอุทธรณ์ทั้งปัญหาข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย แต่ศาลชั้นต้นสั่งรับอุทธรณ์เฉพาะข้อที่ว่าโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลยเพราะจำเลยครอบครองแผงลอยรายพิพาทก่อนที่โจทก์จะได้ทำสัญญาเช่ากับกรมประชาสงเคราะห์โดยถือว่าเป็นปัญหาข้อกฎหมาย
ศาลอุทธรณ์เห็นว่าแม้จำเลยจะอุทธรณ์ในเรื่องอำนาจฟ้องว่าโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องแต่จำเลยก็ยกเหตุที่ว่าโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องนี้ เพราะจำเลยครอบครองแผงลอยมาก่อนโจทก์ทำสัญญาเช่ากับกรมประชาสงเคราะห์ ตามข้อเท็จจริงที่ศาลชั้นต้นฟังมามีว่า โจทก์เป็นผู้เช่าจากกรมประชาสงเคราะห์และโจทก์มิได้เช่าแทนจำเลยซึ่งเท่ากับจำเลยมิได้เช่านั่นเอง ข้ออุทธรณ์ของจำเลยจึงเป็นการเถียงข้อเท็จจริงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 224 พิพากษาให้ยกอุทธรณ์ของจำเลยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 242(1)
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่าข้อความที่จำเลยยกขึ้นอุทธรณ์ดังกล่าวเป็นปัญหาข้อกฎหมายว่าถ้าข้อเท็จจริงได้ความว่าจำเลยครอบครองแผงลอยรายพิพาทมาก่อนที่โจทก์ทำสัญญาเช่ากับกรมประชาสงเคราะห์ โจทก์จะมีอำนาจฟ้องขอให้ขับไล่จำเลยหรือไม่ อุทธรณ์ข้อนี้จำเลยมิได้โต้เถียงข้อเท็จจริงที่ศาลชั้นต้นฟังมาว่าโจทก์เป็นผู้เช่าจากกรมประชาสงเคราะห์และโจทก์มิได้เช่าแทนจำเลย อุทธรณ์จำเลยไม่ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 224
พิพากษาให้ยกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้ศาลอุทธรณ์รับอุทธรณ์ของจำเลยไว้พิจารณาพิพากษาตามรูปความ