คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 765/2491

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยเป็นตำรวจใช้อุบายขู่ว่าให้ผู้เสียหายให้เงินแก่จำเลยเพื่อเอาไปให้แก่ผู้ร้ายสำคัญ ถ้าไม่ให้ก็จะต้องถูกผู้ร้ายกระทำร้ายในภายหลัง ดังนี้เรียกได้ว่าจำเลยบังคับโดยใช้อำนาจโดยมิชอบด้วยกฎหมายขู่เข็ญข่มขืนใจให้ผู้เสียหายมีความกลัวต่อภัยอันตรายในอนาคตซึ่งจะถูกพวกปล้นทำร้ายมีผิดตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 268วรรคสุดท้าย

ย่อยาว

คดี 6 สำนวนนี้ได้ความว่า ในวันเวลาเกิดเหตุ มีชาย 4 คนแขวนพระเครื่องรางเต็มคอ ถืออาวุธปืนเล็กยาวแบบตำรวจทุกคนจับนายเผือกมาที่บ้านนายลิ้ม จำเลยแต่งเครื่องแบบตำรวจได้ไปที่นั่นได้พูดเรี่ยไรราษฎรว่า จะเอาไปให้เสือย่อม ซึ่งเป็นหัวหน้าผู้ร้ายปล้นทรัพย์มีพรรคพวกมากอยู่เขตติดต่อกับตำบลที่เกิดเหตุจำเลยพูดว่า ถ้าไม่ให้ เสือย่อมจะมาเอาเอง และจะต้องเสียมากถ้าให้แล้วจะไม่ถูกคนร้ายรบกวนระหว่างพูดกันนั้น ชาย 4 คนที่ชาวบ้านเข้าใจว่าเป็นผู้ร้ายได้ใช้อาวุธปืนยิงเล่นคนละหลาย ๆ นัด และราษฎรต่าง ๆ รวมทั้งผู้เสียหายในคดีได้ให้เงินแก่จำเลยไป โจทก์จึงฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานทำให้เสื่อมเสียอิสรภาพและชิงทรัพย์จำเลยปฏิเสธ ศาลชั้นต้นเห็นว่า คดียังอยู่ในฐานสงสัยพิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์เห็นว่า จำเลยมีความผิดตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 268 วรรคสุดท้าย พิพากษากลับรวมกระทงลงโทษจำคุกจำเลย 5 ปี คำขอให้คืนหรือใช้ราคาทรัพย์ให้ยกเสีย

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า การที่ผู้เสียหายให้เงินแก่จำเลยนั้นมิใช่ด้วยความสมัครใจ เป็นการให้ด้วยความฝืนใจด้วยถูกจำเลยบังคับโดยอุบาย คือถ้าผู้เสียหายไม่ให้เงินแก่จำเลยไปก็จะต้องถูกผู้ร้ายทำร้ายในภายหลัง เรียกได้ว่า จำเลยบังคับโดยใช้อำนาจอันมิชอบด้วยกฎหมายขู่เข็ญข่มขืนใจให้ผู้เสียหายมีความกลัวต่อภัยอันตรายในอนาคต ซึ่งจะถูกพวกปล้นทำร้าย

พิพากษายืน

Share