คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 761/2508

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยขาดนัดยื่นคำให้การ ศาลสั่งขาดนัดยื่นคำให้การแล้วจำเลยยื่นคำร้องขอยื่นคำให้การ ศาลชั้นต้นสั่งไม่อนุญาตจำเลยมิได้โต้แย้งคำสั่งนั้นกลับอุทธรณ์คำสั่งศาลอุทธรณ์พิพากษาว่าเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณายกอุทธรณ์จำเลยไม่ฎีกา ปัญหาเรื่องขอยื่นคำให้การจึงยุติแล้วจำเลยจะกลับยกขึ้นฎีกาอีกเมื่อศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาคดีนั้นแล้วไม่ได้
โจทก์นำสืบหลักฐานได้น้อยไปกว่าที่ฟ้องไว้ ไม่ถึงกับทำให้อำนาจฟ้องของโจทก์ไม่เกิดขึ้น จนถึงกับจะต้องยกฟ้องโจทก์เพราะเหตุมูลคดีที่ฟ้องไม่มี
โจทก์บอกเลิกการเช่ากับจำเลยแล้ว จำเลยนำเงินค่าเช่าที่ค้างกับค่าเสียหายเท่าจำนวนค่าเช่าสำหรับเดือนต่อๆ มาหลังจากบอกเลิกการเช่าแล้วไปชำระเจ้าหน้าที่ผู้รับเงินของโจทก์ด้วยความผิดพลาดได้ออกใบรับให้แก่จำเลยโดยรวมเรียกค่าเสียหายเป็นค่าเช่าด้วยดังนี้ไม่ถือว่าสัญญาเช่ายังคงผูกพันอยู่ เพราะสัญญาเช่าระหว่างโจทก์กับจำเลยระงับไปตั้งแต่โจทก์บอกเลิกการเช่าแล้ว แม้จำเลยจะอยู่ต่อมาก็ได้ชื่อว่าอยู่โดยละเมิดสิทธิโจทก์ นิติสัมพันธ์ทางสัญญาเช่าย่อมไม่เกิดขึ้นใหม่อีก

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยผิดนัดไม่ชำระค่าเช่าเกินกว่า 2 คราวติด ๆ กัน และให้จำเลยที่ 2 เข้าอยู่อาศัยในที่เช่าโดยไม่ได้รับอนุญาตจากโจทก์ โจทก์ได้บอกเลิกการเช่ากับจำเลยแล้ว กับให้ชำระค่าเช่าที่ค้าง จำเลยทั้งสองก็ไม่ยอมออกจากที่เช่าและไม่ชำระค่าเช่า ขอให้ศาลขับไล่จำเลย ให้จำเลยชำระค่าเช่าที่ค้างและใช้ค่าเสียหาย

ก่อนยื่นคำให้การ โจทก์ขอถอนฟ้องจำเลยที่ 2 ศาลอนุญาต

จำเลยที่ 1 ขาดนัดยื่นคำให้การ ศาลสั่งขาดนัดยื่นคำให้การและนัดพิจารณาสืบพยานต่อไป

ในวันนัดพิจารณา จำเลยที่ 1 ขอยื่นคำให้การ ศาลชั้นต้นสั่งไม่อนุญาตสืบพยานแล้ว พิพากษาให้ขับไล่จำเลย ให้จำเลยชำระค่าเช่าที่ค้างกับค่าเสียหาย

จำเลยที่ 1 อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยที่ 1 ฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า ที่จำเลยฎีกาขอยื่นคำให้การแก้คดีโจทก์เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมนั้น เมื่อศาลชั้นต้นไม่อนุญาตให้จำเลยที่ 1 ยื่นคำให้การ จำเลยที่ 1 ก็มิได้โต้แย้งคำสั่ง กลับอุทธรณ์ต่อศาลอุทธรณ์ เมื่อศาลอุทธรณ์เห็นว่าเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณาต้องห้ามอุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 226(1) พิพากษายกอุทธรณ์ของจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 1 ก็มิได้ฎีกา ปัญหาเรื่องขอยื่นคำให้การจึงยุติแล้ว จะยกขึ้นฎีกาอีกไม่ได้

ปัญหาเรื่องค่าเช่าที่ค้างชำระตามที่โจทก์นำสืบปรากฏว่าข้อเท็จจริงในทางพิจารณาต่างกับฟ้อง ต้องยกฟ้องนั้น เห็นว่า เป็นเรื่องที่โจทก์นำสืบหลักฐานได้น้อยไปกว่าที่ฟ้องไว้เท่านั้นเองไม่ถึงกับทำให้อำนาจฟ้องของโจทก์ไม่เกิดขึ้น เพียงเท่านี้จะยกฟ้องโจทก์เสียเพราะเหตุมูลคดีที่ฟ้องไม่มี หาได้ไม่

ที่จำเลยฎีกาว่า เจ้าหน้าที่โจทก์ออกใบเสร็จรับเงินค่าเช่าหลังจากโจทก์บอกเลิกการเช่าแล้ว แสดงว่าโจทก์ยังผูกพันตามสัญญาเช่าอยู่ เห็นว่า เจ้าหน้าที่ของโจทก์ด้วยความผิดพลาดได้ออกใบเสร็จรับเงินโดยรวมเรียกค่าเสียหายเป็นค่าเช่าด้วยนั้นจะถือว่าสัญญายังคงมีผูกพันอยู่ต่อกันย่อมไม่ได้ เพราะสัญญาเช่าระหว่างโจทก์กับจำเลยที่ 1 ได้ระงับไปตั้งแต่โจทก์บอกกล่าวเลิกสัญญาแล้ว นับแต่นั้นมาจำเลยได้ชื่อว่าอยู่โดยละเมิดสิทธิโจทก์นิติสัมพันธ์ทางสัญญาเช่าย่อมไม่เกิดขึ้นใหม่อีก

พิพากษายืน ยกฎีกาจำเลยที่ 1

Share