คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 759/2492

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ในคดีเรื่องขอให้ถอดถอนผู้ชำระบัญชีของห้างหุ้นส่วนและแต่งตั้งผู้ชำระบัญชีใหม่ ในระหว่างดำเนินคดีนั้น ศาลได้สั่งยึดทรัพย์ของห้างหุ้นส่วนไว้ชั่วคราว ผู้ชำระบัญชีเดิมขอให้ขายที่ดินของห้างหุ้นส่วนโดยอ้างว่า การยึดที่ดินของห้างหุ้นส่วนไว้เฉยๆ มีแต่ทางสิ้นเปลืองและเสียหายมาก เพราะต้องเสียค่ารักษาและที่สวนยางมีอาณาเขตกว้างขวางยากแก่การระวังรักษา ปรากฏว่ามีคนร้ายมาลักตัดยางเป็นนิจ เป็นที่เสียหายแก่สวนยางและผู้เป็นหุ้นส่วน ดังนี้ศาลมีอำนาจสั่งให้จัดการขายทรัพย์ของห้างหุ้นส่วนได้

ย่อยาว

เดิมโจทก์ฟ้องขอให้ยึดหรืออายัดทรัพย์ของห้างหุ้นส่วนโฮห้วงและห้างหุ้นส่วนฮับห้วง ซึ่งจำเลยเป็นผู้ชำระบัญชีไว้ก่อนคำพิพากษาและขอให้ตั้งผู้จัดการและพิทักษ์ทรัพย์สินของห้างหุ้นส่วนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 254, 264 ศาลจังหวัดภูเก็ตไต่สวนแล้ว มีคำสั่งให้ยึดและอายัดไว้ตามคำขอของโจทก์ และจ่าศาลเป็นผู้จัดการทรัพย์ชั่วคราวจำเลยขอให้ขายสวนยาง โจทก์ไม่ยอมศาลชั้นต้นสั่งให้จัดการขาย ศาลอุทธรณ์แก้ ให้ขายทรัพย์ได้แต่ส่วนที่ไม่มีผู้ร้องขัดทรัพย์

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า กรณีในชั้นนี้ เป็นเรื่องขอให้ศาลถอดถอนผู้ชำระบัญชีและแต่งตั้งผู้ชำระบัญชีใหม่ ในระหว่างดำเนินคดีที่กล่าวนี้ศาลได้สั่งยึดทรัพย์ของห้างหุ้นส่วนไว้ชั่วคราว ฝ่ายจำเลยซึ่งเป็นผู้ชำระบัญชีเดิม ได้ขอให้ขายที่ดินของห้างหุ้นส่วน โดยอ้างว่าการยึดที่ดินของห้างหุ้นส่วนไว้เฉย ๆ มีแต่ทางสิ้นเปลืองและเสียหายมากเพราะต้องเสียค่าใช้จ่ายรักษาเป็นรายเดือน และสวนยางรายนี้มีอาณาเขตกว้างขวางยากจะระวังรักษาให้ทั่วถึง ปรากฏว่ามีคนร้ายลักตัดยางเป็นนิจ เป็นที่เสียหายแก่สวน และผู้เป็นหุ้นส่วนแต่ฝ่ายโจทก์ว่าไม่ยินยอมให้ขายสวนในเวลานี้ เพราะหุ้นส่วน 5 หุ้นที่โอนไปยังไม่เด็ดขาด ศาลฎีกาเห็นว่า ศาลมีอำนาจสั่งให้จัดการขายทรัพย์ของห้างหุ้นส่วนได้โดยไม่เป็นการผิดกฎหมาย

พิพากษายืน

Share