คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 756/2509

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ที่พิพาทเป็นที่สวนตามกฎหมายลักษณะเบ็ดเสร็จ บทที่ 42 จำเลยครอบครองที่พิพาทอย่างเป็นเจ้าของมาเกิน 10 ปีย่อมได้กรรมสิทธิ์

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่สวนหนึ่งแปลงปรากฏตามสำเนาใบแทนใบไต่สวน โจทก์ครอบครองทำประโยชน์เป็นเวลาประมาณ 50 ปี เมื่อเดือนมิถุนายน 2504 จำเลยที่ 1 ปลูกบ้านรุกล้ำเข้าไปในที่ดินของโจทก์ จำเลยที่ 2 ที่ 3 บุกรุกเข้าไปปลูกบ้านขึ้นหนึ่งหลัง ขอให้ศาลพิพากษาว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์ ให้จำเลยรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างขนย้ายออกไป ห้ามมิให้เกี่ยวข้อง

จำเลยให้การร่วมกันว่า ที่ดินที่ปลูกเรือนเป็นของจำเลย จำเลยครอบครองเป็นเจ้าของไม่น้อยกว่า 50 ปี โจทก์รื้อถอนเรือนอพยพจากที่ดินดังกล่าวไปอยู่ที่อื่นไม่น้อยกว่า 50 ปี

ศาลชั้นต้นฟังว่า ที่พิพาทเป็นที่สวนตามกฎหมายลักษณะเบ็ดเสร็จบทที่ 42 แม้ในใบไต่สวนจะมีชื่อโจทก์เป็นเจ้าของ โจทก์ก็ได้สละละทิ้งที่พิพาทไปโดยไม่ได้มอบให้ใครดูแลไม่น้อยกว่า 50 ปี จำเลยที่ 1 ที่ 2 ครอบครองในลักษณะเป็นเจ้าของมาเกิน 10 ปี จึงได้กรรมสิทธิ์ในที่พิพาท พิพากษายกฟ้องโจทก์

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยเป็นฝ่ายครอบครองที่พิพาทมานาน เป็นพฤติการณ์ที่แสดงให้เห็นว่าจำเลยได้ครอบครองที่พิพาทอย่างเจ้าของมาเกิน 10 ปีแล้ว ย่อมได้กรรมสิทธิ์

พิพากษายืน

Share