แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยมิได้เป็นผู้ทำสัญญารับขนสินค้าพิพาทกับบุคคลภายนอกแทนตัวการ แต่เป็นกรณีที่ผู้ขนส่งซึ่งเป็นตัวการเป็นผู้ทำสัญญารับขนสินค้าพิพาทกับผู้ส่งโดยเป็นผู้ออกใบตราส่งในฐานะเป็นผู้ขนส่งเองโดยตรงจำเลยจึงไม่ต้องรับผิดตามสัญญารับขนสินค้าพิพาทในฐานะตัวแทนของผู้ขนส่งซึ่งเป็นตัวการที่อยู่ต่างประเทศและมีภูมิลำเนาในต่างประเทศตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 824
จำเลยส่งมอบสินค้าพิพาทให้แก่ผู้ซื้อโดยไม่ได้มีการเวนคืนใบตราส่งเป็นการทำการตามคำสั่งของผู้ขนส่งซึ่งเป็นตัวการภายในขอบอำนาจแห่งฐานตัวแทนจำเลยในฐานะส่วนตัวจึงไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นนิติบุคคลประเภทบริษัทมหาชนจำกัดได้เปิดเลตเตอร์ออฟเครดิตตามคำขอของบริษัทฟินเนสเอ็นเตอร์ไพรส์จำกัด โดยมีข้อตกลงในเรื่องเงื่อนไขการชำระเงินว่า เมื่อผู้ขายได้จัดส่งสินค้าลงเรือแล้ว ให้ผู้ขายเรียกเก็บเงินค่าสินค้าจากธนาคารตัวแทนของโจทก์ได้ตามเงื่อนไขในเลตเตอร์ออฟเครดิต โดยผู้ขายและบริษัทฟินเนสเอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด ตกลงมอบสินค้าทั้งหมดและใบตราส่ง กรมธรรม์ประกันภัย และเอกสารต่าง ๆ แก่โจทก์ ซึ่งโจทก์อยู่ในฐานะผู้รับตราส่งอันมีสิทธิแต่เพียงผู้เดียวในการรับสินค้าตามใบตราส่ง บริษัทฟินเนสเอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด จะรับสินค้าได้ต่อเมื่อมีการชำระราคาสินค้าให้แก่โจทก์และได้รับโอนใบตราส่งจากโจทก์แล้ว สินค้าได้ถูกจัดส่งมาทางเรือโดยจำเลยเป็นผู้รับขนและตัวแทนเรือในการดำเนินงานอันเกี่ยวกับธุรกิจเนื่องจากการรับขนของทางทะเล จำเลยได้กระทำการอันมิชอบด้วยกฎหมายด้วยความจงใจหรือประมาทเลินเล่อ กล่าวคือจำเลยซึ่งมีหน้าที่ต้องรักษาและส่งมอบสินค้าตามใบตราส่งให้แก่โจทก์ในฐานะผู้รับตราส่งได้ส่งมอบสินค้าให้แก่บริษัทฟินเนสเอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด ซึ่งมิใช่ผู้ทรงใบตราส่งโดยที่มิได้มีการเวนคืนใบตราส่งและไม่ได้รับความยินยอมหรืออนุญาตจากโจทก์อันเป็นการละเมิดและผิดสัญญารับขนต่อโจทก์ เป็นเหตุให้โจทก์เสียหาย มิได้รับค่าสินค้าจากบริษัทฟินเนสเอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัดและไม่สามารถรับหรือโอนขายสินค้าให้แก่บุคคลอื่นเพื่อชำระค่าสินค้าที่โจทก์ได้ชำระให้แก่ผู้ขายไปแล้วได้ ขอให้บังคับจำเลยชำระเงินเป็นจำนวน 3,904,980.60 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5ต่อปี ในต้นเงินดังกล่าวนับแต่วันถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไป จนกว่าจะชำระให้แก่โจทก์เสร็จสิ้น
จำเลยให้การว่า จำเลยมิได้เป็นผู้ขนส่งสินค้าตามฟ้องแต่เป็นเพียงผู้รับมอบหมายตามประเพณีในธุรกิจรับขนของทางทะเลเท่านั้น และมิได้เป็นผู้ออกใบตราส่งตามฟ้อง จำเลยเพียงแต่ได้รับมอบหมายจากบริษัทฟอร์โมซา อินเตอร์เนชั่นแนล เฟรทฟอร์เวิร์ดเดอร์จำกัด ผู้ขนส่งที่ประเทศไต้หวันให้ทำการส่งมอบสินค้าแก่ผู้รับตราส่งในประเทศไทย จึงไม่อยู่ในฐานะที่ต้องรับผิดตามสัญญาหรือละเมิดต่อโจทก์ตามฟ้อง ขอให้ยกฟ้อง
ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางพิพากษาให้จำเลยชำระเงินจำนวน 106,985.77 ดอลลาร์สหรัฐพร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ หากจำเลยจะชำระเป็นเงินบาทให้คิดตามอัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยของธนาคารพาณิชย์ที่ขายให้ลูกค้าในวันที่ใช้เงินจริง ถ้าไม่มีอัตราแลกเปลี่ยนในวันใช้เงินจริงให้ถือเอาวันสุดท้ายที่มีอัตราเช่นว่านั้นก่อนวันดังกล่าว ในกรณีที่ธนาคารแห่งประเทศไทยประกาศแจ้งให้ทราบถึงอัตราแลกเปลี่ยนของธนาคารพาณิชย์ (อัตราอ้างอิง) ก็ให้ถืออัตราดังกล่าวเป็นเกณฑ์คำนวณ แต่ไม่ให้เกิน 3,904,980.60 บาท
จำเลยอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศวินิจฉัยว่า คดีนี้โจทก์ฟ้องให้จำเลยรับผิดในมูลผิดสัญญารับขนและมูลละเมิด แต่คดีมีปัญหาขึ้นมาสู่ศาลฎีกาเฉพาะที่เกี่ยวกับมูลผิดสัญญารับขน ข้อเท็จจริงฟังได้เป็นยุติว่าบริษัทฟอร์โมซาอินเตอร์เนชั่นแนล เฟรท ฟอร์เวิร์ดเดอร์ จำกัด ซึ่งอยู่ที่ประเทศไต้หวันเป็นผู้ขนส่งสินค้าพิพาทจากประเทศไต้หวันมายังประเทศไทยโดยเรือถัว ไต และเรือกัว ติง ตามใบตราส่งเอกสารหมายจ.2 และ จ.3 โจทก์เป็นผู้รับตราส่งและเป็นผู้ทรงใบตราส่งดังกล่าวจำเลยมิใช่ผู้ขนส่งหรือผู้ขนส่งอื่น แต่เป็นตัวแทนเรือในประเทศไทยของผู้ขนส่งดังกล่าว เมื่อสินค้าพิพาทมาถึงประเทศไทย จำเลยได้แจ้งให้บริษัทฟินเนสเอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด ผู้ซื้อสินค้าพิพาททราบต่อมามีการส่งมอบสินค้าพิพาทให้แก่ผู้ซื้อไปโดยไม่มีการเวนคืนใบตราส่งแก่ผู้ขนส่ง
คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของจำเลยข้อแรกว่าจำเลยต้องรับผิดต่อโจทก์ในฐานะจำเลยเป็นตัวแทนของผู้ขนส่งซึ่งเป็นตัวการที่อยู่ต่างประเทศและมีภูมิลำเนาในต่างประเทศหรือไม่เห็นว่า ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 824 บัญญัติให้ตัวแทนในประเทศรับผิดแทนตัวการซึ่งอยู่ต่างประเทศและมีภูมิลำเนาในต่างประเทศต่อบุคคลภายนอกก็แต่เฉพาะในกรณีที่ตัวแทนได้ทำสัญญากับบุคคลภายนอกแทนตัวการเท่านั้น เมื่อปรากฏว่าจำเลยมิได้เป็นผู้ทำสัญญารับขนสินค้าพิพาทกับบุคคลภายนอกแทนตัวการ แต่เป็นกรณีที่ผู้ขนส่งซึ่งเป็นตัวการเป็นผู้ทำสัญญารับขนสินค้าพิพาทกับผู้ส่งโดยเป็นผู้ออกใบตราส่งตามเอกสารหมายจ.2 และ จ.3 ในฐานะเป็นผู้ขนส่งเองโดยตรง จำเลยจึงไม่ต้องรับผิดตามสัญญารับขนสินค้าพิพาทในฐานะตัวแทนของผู้ขนส่งซึ่งเป็นตัวการที่อยู่ต่างประเทศและมีภูมิลำเนาในต่างประเทศ
มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของจำเลยต่อไปว่า จำเลยในฐานะตัวแทนผู้ขนส่งต้องรับผิดต่อโจทก์ เพราะได้ส่งมอบสินค้าพิพาทให้แก่ผู้ซื้อซึ่งมิใช่ผู้รับตราส่งหรือผู้ทรงใบตราส่งและไม่ได้เวนคืนใบตราส่งหรือไม่ โดยจำเลยอุทธรณ์ว่า จำเลยไม่ได้เกี่ยวข้องกับการส่งมอบสินค้าพิพาท และจำเลยในฐานะตัวแทนกระทำการตามคำสั่งของผู้ขนส่งซึ่งเป็นตัวการ จึงไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์โดยลำพังเห็นว่า ตามคำให้การของจำเลย จำเลยรับว่าจำเลยได้รับมอบหมายจากผู้ขนส่งให้ส่งมอบสินค้าพิพาทให้แก่ผู้รับตราส่งตามใบตราส่งเอกสารหมาย จ.2 และ จ.3 ก็ระบุว่า สำหรับการส่งมอบสินค้าโปรดยื่นใบตราส่งต่อจำเลย และได้ความว่า จำเลยได้ปล่อยสินค้าพิพาทให้แก่ผู้ซื้อ จึงรับฟังได้ว่าจำเลยได้ส่งมอบสินค้าพิพาทให้แก่ผู้ซื้อจริง และการที่จำเลยส่งมอบสินค้าพิพาทให้แก่ผู้ซื้อและไม่ได้เวนคืนใบตราส่ง ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่าจำเลยทำการตามคำสั่งของผู้ขนส่งซึ่งเป็นตัวการภายในขอบอำนาจแห่งฐานตัวแทนจำเลยในฐานะส่วนตัวจึงไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์
พิพากษากลับ ให้ยกฟ้องโจทก์