คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7558/2538

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องขอให้เพิกถอนหนังสือคำคัดค้านของข.สามีจำเลยที่คัดค้านการรังวัดที่ดินของโจทก์จำเลยให้การว่าเหตุที่ข. ยื่นหนังสือคัดค้านการรังวัดที่ดินของโจทก์เพราะโจทก์นำช่างรังวัดปักหลักรุกล้ำเข้ามาในที่ดินของข. ประเด็นโต้เถียงจึงมีว่าที่ดินพิพาทเป็นของโจทก์หรือข. อันเป็นคดีที่มีคำขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันอาจคำนวณเป็นราคาเงินได้จึงเป็นคดีมีทุนทรัพย์

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2533 โจทก์นำเจ้าหน้าที่ที่ดินรังวัดที่ดินของโจทก์ แต่นายขำ ขาวพุ่มสามีจำเลยเจ้าของที่ดินข้างเคียงยื่นคัดค้านการรังวัดที่ดินของโจทก์ ทำให้โจทก์เสียหาย ขอให้บังคับจำเลยเพิกถอนคำคัดค้านการรังวัดที่ดินพิพาท ให้จำเลยใช้ค่าเสียหายเป็นเงิน 13,754.82 บาทพร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ หากโจทก์ไม่สามารถโอนขายให้แก่ผู้ซื้อตามกำหนด ให้จำเลยใช้ค่าเสียหายเป็นเงิน 500,000 บาทพร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันที่ 25 มีนาคม 2535ซึ่งเป็นวันที่โจทก์ผิดสัญญา จนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยให้การว่า นายขำสามีจำเลยยื่นคำคัดค้านเนื่องจากโจทก์นำชี้รังวัดรุกล้ำเข้ามาในที่ดินของนายขำประมาณ 1 เมตรการที่โจทก์ไม่สามารถรังวัดออกโฉนดได้จึงไม่ใช่ความผิดของนายขำโจทก์ทราบว่านายขำยื่นคัดค้าน แต่โจทก์ยังคงไปทำสัญญาจะซื้อขายกับบุคคลภายนอก ความเสียหายจึงไม่ได้เกิดจากนายขำและจำเลยฟ้องโจทก์ขาดอายุความ การคัดค้านการรังวัดเป็นการกระทำของนายขำเพียงคนเดียวไม่เกี่ยวกับจำเลย ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้เพิกถอนคำคัดค้านของนายขำ ขาวพุ่มสามีของจำเลยที่คัดค้านการรังวัดที่ดินของโจทก์
จำเลยอุทธรณ์
ระหว่างพิจารณาของศาลอุทธรณ์ โจทก์ถึงแก่กรรม นายชวน บุญอิ่มทายาทของโจทก์ยื่นคำร้องขอเข้าเป็นคู่ความแทน ศาลอุทธรณ์อนุญาต
ศาลอุทธรณ์พิพากษายกอุทธรณ์ของจำเลย
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ที่จำเลยฎีกาว่าคำฟ้องโจทก์ที่ขอให้บังคับจำเลยเพิกถอนคำคัดค้านของนายขำสามีจำเลยที่คัดค้านการรังวัดที่ดินของโจทก์เป็นคำฟ้องประธาน ส่วนการที่โจทก์เรียกค่าเสียหายมาด้วยเป็นเพียงส่วนประกอบถือว่าเป็นคดีที่มีคำขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันไม่อาจคำนวณเป็นราคาเงินได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 224 วรรคสอง จึงเป็นคดีที่ไม่ต้องห้ามอุทธรณ์ในข้อเท็จจริงนั้น เห็นว่า โจทก์ฟ้องขอให้เพิกถอนหนังสือคำคัดค้านของนายขำสามีจำเลยที่คัดค้านการรังวัดที่ดินของโจทก์ โดยในคำคัดค้านนายขำอ้างว่าในการรังวัดโจทก์ได้ปักหลักรุกล้ำเข้ามาในเขตที่ดินของนายขำต่อมาเมื่อโจทก์และนายขำนำช่างรังวัดไปทำการรังวัดปักหลักนายขำก็คัดค้านการรังวัดว่าต้องรังวัดเข้าไปในที่ดินของโจทก์จากจุดเดิมหลักเขตหมายเลข 2840 ไปทางหลักเขตหมายเลข 4243เนื้อที่ 105 ตารางวา คิดเป็นราคา 10,500 บาท เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ที่ดินไม่สามารถรังวัดแบ่งแยกโฉนดที่ดินแปลงดังกล่าวให้แก่โจทก์ได้ จำเลยให้การว่า เหตุที่นายขำยื่นหนังสือคัดค้านการรังวัดที่ดินของโจทก์เพราะโจทก์นำช่างรังวัดปักหลักรุกล้ำเข้ามาในที่ดินของนายขำ ประเด็นโต้เถียงจึงมีว่าที่ดินพิพาทเนื้อที่ 105 ตารางวาที่นายขำคัดค้านมาเป็นของโจทก์หรือนายขำสามีจำเลยอันเป็นคดีที่มีคำขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันอาจคำนวณเป็นราคาเงินได้ จึงเป็นคดีมีทุนทรัพย์โดยมีจำนวนทุนทรัพย์ที่พิพาทกันในชั้นอุทธรณ์ตามราคาที่ดินคือ 10,500 บาท ไม่เกินห้าหมื่นบาท ต้องห้ามอุทธรณ์ในข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 224 วรรคหนึ่ง หาใช่เป็นคดีไม่มีทุนทรัพย์ดังจำเลยฎีกาไม่
พิพากษายืน

Share