แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยถืออาวุธเข้าไปค้นตัวคนร้ายในบ้านโจทก์โดยจำเลยอ้างว่าติดตามคนร้ายมาทางบ้านโจทก์ แต่คำของจำเลยเองก็ไม่ปรากฎว่าคนนั้นได้กระทำความผิดอย่างใดและพฤติการณ์ที่จำเลยไปถามคนอื่นและไปถามโจทก์นั้นก็แสดงว่าจำเลยไม่รู้ว่าคนนั้นไปทางไหน เพียงเท่านี้ยังไม่พอฟังว่าจำเลยมีเหตุอันแน่นแฟ้นควรสงสัยว่าคนร้ายได้เข้าไปซุกซ่อนตัวอยู่ในบ้านโจทก์ ให้พ้นความรับผิดฐานบุกรุกไม่
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยมีอาวุธปืนบุกรุกเข้าไปในเคหะสถานของโจทก์ กล่าวำใส่ความและด่าโจทก์ ใช้ปืนพยายามยิงโจทก์จะฆ่าให้ตาย และกล่าวคำอาฆาตมาดร้ายต่อโจทก์ ขอให้ลงโทษตาม ก.ม. อาญา ม. ๓๒๗,๓๒๘,๒๘๒,๓๓๙(๒)๒๔๕-๖๐,๓๐,๗๐,+
จำเลยต่อสู้ว่าจำเลยเป็นกำนันติดตามคนร้ายไป คนร้ายหายตัวไปในบริเวณหน้าบ้านโจทก์ จำเลยได้ร้องห้ามไม่ให้คนเข้าออกจากบ้าน จำเลยกระทำตามหน้าที่
ศาลจังหวัดนครศรีธรรมราชเห็นว่า จำเลยมีเหตุอันควรสงสัยว่าคนร้ายเข้าไปซุกซ่อนอยู่ในบ้านโจทก์ จำเลยมีอำนาจเข้าไปค้นได้โดยไม่ต้องมีหมายค้นตาม ป.วิ.อาญา.ม.๔๓(๓),๔๖(๒) จึงไม่ผิดฐานบุกรุก ข้อหาว่าพยายามใช้ปืนยิงโจทก์เป็นแต่จำเลยประทับปืนจ้องจะยิงไปทางโจทก์แล้วตนเข้าไปจับมือออกไปเสียยังไม่เป็นผิดฐานพยายามฆ่าคน แต่จำเลยได้ด่าโจทก์ซึ่งหน้าและกล่าวคำอาฆาต พิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตาม ก.ม.อาญา ม.๓๓๙(๒) ให้ปรับ ๕๐ บาท กับผิดตาม ม.๓๐ ให้เรียกประกันทัณฑ์บลกำหนดเวลา ๒ ปี ผิดทัณฑ์บลให้ปรับ ๕๐๐ บาท
โจทก์จำเลยต่างอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่าจำเลยมีความผิดตาม ก.ม. อาญา ม. ๓๒+ วรรท้ายด้วย ให้จำคุก ๑ ปี แต่ให้รอการลงโทษไว้ ๓ ปี นอกจากนี้คงยืน
โจทก์ฎีกาว่าไม่ควรรอการลงอาญาแก่จำเลย
จำเลยฎีกาแต่ศาลสั่งรับฎีกาฉะเพาะในปัญหาเรื่องบุรรุก ซึ่งจำเลยฎีกาว่ากรณีมีเหตุที่จำเลยควรสงสัยว่าคนร้ายเข้าไปอยู่ในบ้านโจทก์ดังศาลจังหวัดวินิจฉัย
ศาลฎีกาเห็นว่าในข้อที่จำเลยแก้ว่ามีเหตุที่จำเลยควรสงสัยว่าผู้ร้ายเข้าไปในบ้านโจทก์ จำเลยเป็นกำนันจึงมีอำนาจเข้าค้นบ้านโจทก์ ได้นั้น ได้ความว่าแม้แต่ตามคำของจำเลยเองก็ไม่ปรากฎว่าคนที่จำเลยเห็นมาเดินอยู่ข้างบ้านนางเพิ่มนั้นได้กระทำผิดแต่อย่างใด และที่จำเลยไปถามนายร่วมแล้วจึงไปถามโจทก์ก็แสดงอยู่ว่าจำเลยไม่รู้ว่าคนนั้นไปทางไหน จึงไม่มีเหตุจะควรสงสัยว่าคนร้ายได้เข้าซุกซ่อนตัวอยู่ในบ้านของโจทก์ ฉะนั้นที่จำเลยฎีกาว่ามีเหตุที่จะเลยควรสงสัยว่าคนร้ายเข้าไปอยู่ในบ้านโจทก์จึงฟังไม่ได้ กรณีไม่ต้องด้วย ป.วิ.อาญา ม. ๙๒ หรือ ๘๖
พิพากษายืน