แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
เช่าห้องเขาโดยผู้เช่าตลอดทั้งครอบครัว ได้อาศัยหลับนอนทำครัวหุงหาอาหารกินอยู่ในห้องเช่านั้น ส่วนตัวผู้เช่า ทำการขายทองรูปพรรณ์และกาแฟเป็นการค้าเล็กๆน้อยๆ ดังนี้ ถือว่า ผู้เช่าใช้ห้องพิพาทเป็นที่อยู่อาศัยเป็นส่วน ใหญ่ ไม่ใช้อยู่อาศัยเพื่อควบคุมการค้า จึงเป็นเคหะได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯลฯ.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยทั้งสองสำนวนออกจากบ้านเช่าของโจทก์ ที่ตำบลลาดหลวง อำเภอเมืองอ่างทอง ฯลฯ
ศาลชั้นต้นเห็นว่า จำเลยทั้งอสองทำการค้าเล็กๆน้อยๆ จำเลยและครอบครัวได้อาศัยอยู่ในห้องพิพาทเป็นประจำ เป็น สำคัญ จำเลยไม่ได้อยู่อาศัยเพื่อควบคุมการค้า ห้องพิพาทเป็นเคหะตามความหมายของ พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯลฯ
จึงพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์,
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา,
ศาลฎีกาประชุมปรึกษา ข้อเท็จจริงตามศาลล่างทั้งสองฟังมา มีว่า จำเลยตลอดทั้งครอบครัวได้อาศัยหลับนอน ทำครัวหุงหา อาหารกินอยู่ในห้องรายพิพาทกันนี้ ส่วนจำเลยทำการขายทองรูปพรรณ์และการแฟเป็นการค้าเล็กๆน้อยๆ จำเลยไม่ได้ มาอยู่อาศัยเพื่อควบคุมการค้า จำเลยให้ห้องพิพาทเป็นที่อยู่อาศัยเป็นส่วนใหญ่หรือสำคัญกว่าการค้า ศาลฎีกาเห็นว่าข้อ เท็จจริงได้ความดังนี้ ก็ต้องฟังว่าจำเลยใช้ห้องรายพิพาทเป็นเคหะสถานที่อยู่อาศัย อยู่ในความคุ้มครองของ พ.ร.บ. ควบคุมค่าเช่า ฯลฯ จึงพร้อมกันพิพากษายืน.