แหล่งที่มา : สำนักวิชาการ
ย่อสั้น
ใบแต่งทนายความให้อำนาจทนายจำเลยใช้สิทธิอุทธรณ์หรือฎีกาด้วย ทนายจำเลยจึงสามารถลงชื่อในคำฟ้องฎีกาแทนจำเลยได้โดยไม่ต้องสอบถามจำเลยก่อน ข้ออ้างของทนายจำเลยที่ว่า หลังจากศาลชั้นต้นอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์แล้วจำเลยไม่เคยมาติดต่อทนายจำเลย ทำให้ไม่ทราบว่าจำเลยประสงค์จะว่าจ้างให้เป็นทนายความในชั้นฎีกาอีกต่อไปหรือไม่นั้น ข้ออ้างด้งกล่าวเป็นเงื่อนไขในการปฏิบัติงานของทนายจำเลยเอง ไม่ใช่พฤติการณ์พิเศษอันจะพึงขยายระยะเวลายื่นฎีกาให้แก่จำเลย
ย่อยาว
คดีสืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสองตามประมวลฎหมายอาญา มาตรา 33, 83, 335, 357
จำเลยทั้งสามให้การปฏิเสธ แต่เมื่อสืบพยานโจทก์ไปบ้างแล้ว จำเลยที่ 1 ให้การใหม่เป็นรับสารภาพฐานลักทรัพย์ ศาลชั้นต้นให้จำหน่ายคดีสำหรับจำเลยที่ 1 เพื่อให้โจทก์ยื่นฟ้องเป็นคดีใหม่
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยที่ 2 และที่ 3 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335 (1) (7) (8) วรรคสอง ประกอบมาตรา 83 คงจำคุกคนละ 2 ปี 8 เดือน ริบไขควงและประแจปากตายของกลาง ยกฟ้องฐานรับของโจร
จำเลยที่ 3 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 9 พิพากษายืน
ทนายจำเลยที่ 3 ขอขยายระยะเวลายื่นฎีกา โดยอ้างว่าหลังจากศาลชั้นต้นอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 9 แล้ว จำเลยที่ 3 ยังไม่เคยมาติดต่อทนายจำเลยที่ 3 จึงไม่อาจทราบได้ว่าจำเลยที่ 3 ยังมีความประสงค์ที่จะว่าจ้างให้เป็นทนายความในชั้นฎีกาต่อไปหรือไม่ จึงขอขยายระยะเวลายื่นฎีกาอีก 15 วัน
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า กรณีไม่ใช่พฤติการณ์พิเศษ ยกคำร้องขอ
จำเลยที่ 3 อุทธรณ์คำสั่ง
ศาลอุทธรณ์ภาค 9 พิพากษายืน
จำเลยที่ 3 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “คดีมีเหตุสมควรขยายระยะเวลาฎีกาให้จำเลยที่ 3 หรือไม่ เห็นว่า คดีนี้จำเลยที่ 3 แต่งตั้งให้นายธีรศักดิ์ เพชรเรืองสด เป็นทนายความ โดยใบแต่งทนายความลงวันที่ 28 กรกฎาคม 2543 ให้อำนาจนายธีรศักดิ์ทนายจำเลยที่ 3 ใช้สิทธิในการอุทธรณ์หรือฎีกาด้วย ทนายจำเลยที่ 3 จึงสามารถลงชื่อในคำฟ้องฎีกาแทนจำเลยที่ 3 ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 62 ประกอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 15 โดยไม่จำต้องรอสอบถามจำเลยที่ 3 ก่อนแต่อย่างใด ข้ออ้างของทนายจำเลยที่ 3 ตามคำร้องที่ว่า หลังจากศาลชั้นต้นอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 9 แล้ว จำเลยที่ 3 ไม่เคยมาติดต่อทนายจำเลยที่ 3 ทำให้ไม่ทราบว่าจำเลยที่ 3 ประสงค์จะว่าจ้างให้เป็นทนายความในชั้นฎีกาอีกต่อไปหรือไม่นั้น บ่งแสดงว่าทนายจำเลยที่ 3 จะยื่นฎีกาให้จำเลยที่ 3 ต่อเมื่อจำเลยที่ 3 ตกลงให้ค่าว่าจ้างทนายความในการยื่นฎีกาเสียก่อน ข้ออ้างดังกล่าวจึงเป็นเงื่อนไขในการปฏิบัติงานของทนายจำเลยที่ 3 เอง หาใช่พฤติการณ์พิเศษอันจะพึงขยายระยะเวลายื่นฎีกาให้แก่จำเลยที่ 3 ได้ไม่ ที่ศาลชั้นต้นยกคำร้องขอและศาลอุทธรณ์ภาค 9 พิพากษายืนมานั้นชอบแล้ว ฎีกาของจำเลยที่ 3 ฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน