คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 752/2545

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

ผู้ที่จะมีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งต้องเป็นสมาชิกพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่งเพียงพรรคเดียวตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยฯ มาตรา 107(4) และผู้สมัครรับเลือกตั้งจะต้องยื่นหนังสือรับรองของหัวหน้าพรรคการเมืองว่าส่งผู้สมัครสมาชิกผู้นั้นเข้าสมัครรับเลือกตั้งตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภาฯมาตรา 31 วรรคสอง อีกด้วย เมื่อได้รับใบสมัครแล้ว ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้งต้องตรวจสอบหลักฐานการสมัครคุณสมบัติของผู้สมัครและสอบสวนว่าผู้สมัครมีสิทธิที่จะสมัครรับเลือกตั้งหรือไม่ให้เสร็จสิ้นภายในเจ็ดวันนับแต่วันปิดการรับสมัครตามความในมาตรา 32 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งฯ ดังกล่าวดังนั้น แม้ผู้ร้องจะยื่นใบสมัครพร้อมกับหนังสือรับรองของหัวหน้าพรรคครบถ้วนแล้วก็ตาม แต่ในระหว่างระยะเวลาการตรวจสอบหลักฐานการสมัคร ปรากฏว่าหัวหน้าพรรคดังกล่าวยืนยันขอยกเลิกหนังสือรับรองจึงต้องถือว่าการสมัครรับเลือกตั้งของผู้ร้องขาดหลักฐานหนังสือรับรองของหัวหน้าพรรคการเมือง มีผลเท่ากับผู้ร้องไม่อาจสมัครในนามของพรรคการเมืองดังกล่าวได้ การที่ผู้คัดค้านไม่รับสมัครและไม่ปรากฏชื่อผู้ร้องเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งจึงเป็นการชอบด้วยกฎหมายแล้ว
หัวหน้าพรรคการเมืองเป็นผู้แทนของพรรคการเมืองในกิจการอันเกี่ยวกับบุคคลภายนอกตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองฯ มาตรา 20 วรรคสอง ดังนั้น หัวหน้าพรรคการเมืองย่อมมีอำนาจที่จะออกหนังสือและยืนยันการบอกเลิกหนังสือรับรองที่ผู้ร้องได้ยื่นไว้พร้อมกับใบสมัครได้ ส่วนการที่ผู้ร้องอ้างว่าหนังสือยืนยันขอยกเลิกหนังสือรับรองของหัวหน้าพรรคการเมืองไม่ชอบด้วยข้อกำหนดของพรรคการเมืองนั้น ก็ไม่ปรากฏว่าผู้ร้องในฐานะสมาชิกของพรรคการเมืองได้ดำเนินการขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยฯ มาตรา 47 วรรคสาม และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองฯ แต่ประการใด คำร้องของผู้ร้องจึงฟังไม่ขึ้น
คดีร้องขอให้รับสมัครเลือกตั้งและประกาศชื่อเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในเขตการเลือกตั้งนั้นไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมศาล

ย่อยาว

ผู้ร้องยื่นคำร้องว่า ผู้ร้องเป็นผู้มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตามกฎหมาย และได้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งที่ 3 จังหวัดลพบุรี ต่อมาผู้คัดค้านแจ้งผู้ร้องว่า ผู้ร้องไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเนื่องจากหนังสือรับรองของหัวหน้าพรรคการเมืองที่นำมาประกอบการสมัครถูกหัวหน้าพรรคแจ้งขอยกเลิก ซึ่งมีผลเท่ากับขาดหนังสือรับรองของหัวหน้าพรรคการเมือง คำวินิจฉัยของผู้คัดค้านขัดต่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2540 มาตรา 47พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2541มาตรา 9, 10, 12, 20 และข้อบังคับพรรคความหวังใหม่ ข้อ 50(3), (13)และวรรคท้าย หนังสือขอยกเลิกการรับรองของหัวหน้าพรรคความหวังใหม่เป็นหนังสือที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายและข้อบังคับพรรคความหวังใหม่จึงไม่มีผลในการยกเลิกหนังสือรับรองของหัวหน้าพรรคที่ผู้ร้องนำไปประกอบการสมัครรับเลือกตั้ง ขอให้ศาลฎีกามีคำสั่งให้ผู้คัดค้านรับสมัครผู้ร้องและประกาศชื่อผู้ร้องเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งในเขตที่ 3 จังหวัดลพบุรีต่อไป

ผู้คัดค้านยื่นคำคัดค้านว่า แม้ผู้ร้องจะยื่นหนังสือรับรองของหัวหน้าพรรคการเมืองพร้อมกับการยื่นใบสมัคร แต่ขั้นตอนการรับสมัครยังไม่เสร็จสิ้น โดยผู้คัดค้านจะต้องสอบสวนว่าผู้สมัครมีสิทธิจะสมัครหรือไม่ ให้แล้วเสร็จภายใน 7 วันนับแต่วันเปิดรับสมัคร ในระหว่างเวลาดังกล่าวหัวหน้าพรรคมีหนังสือขอยกเลิกหนังสือรับรองที่ให้ผู้ร้องลงสมัครรับเลือกตั้งในนามของพรรค อันมีผลให้ผู้ร้องไม่มีหนังสือรับรองของหัวหน้าพรรคการเมือง การยื่นใบสมัครของผู้ร้องจึงขาดหลักฐานหนังสือรับรองของหัวหน้าพรรคการเมือง ส่วนที่อ้างว่ามติที่ประชุมพรรคมีการบิดเบือนความจริงเป็นการทำรายงานเท็จยังไม่มีการรับรองรายงานการประชุม และส่งรายงานให้คณะกรรมการเลือกตั้ง เรื่องดังกล่าวไม่มีความจำเป็นที่จะต้องนำมาพิจารณาในการตรวจสอบคุณสมบัติแต่อย่างใด ขอให้ยกคำร้อง

ในวันนัดพิจารณา คู่ความแถลงรับข้อเท็จจริงตามคำร้องและคำคัดค้าน ศาลฎีกาจึงมีคำสั่งให้งดการสืบพยานของคู่ความ

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ข้อเท็จจริงที่คู่ความแถลงรับและไม่โต้แย้งกันฟังเป็นยุติว่า เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2545 ผู้ร้องยื่นใบสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง ในเขตเลือกตั้งที่ 3จังหวัดลพบุรี พร้อมหลักฐานต่าง ๆ ครบถ้วนรวมทั้งหนังสือรับรองของหัวหน้าพรรคความหวังใหม่ที่ผู้ร้องเป็นสมาชิกอยู่ต่อคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้งที่ 3 จังหวัดลพบุรีผู้คัดค้าน ต่อมาวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2545 หัวหน้าพรรคความหวังใหม่มีหนังสือถึงผู้คัดค้านขอยกเลิกหนังสือรับรองของหัวหน้าพรรคที่ส่งผู้ร้องลงสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้งในเขตที่ 3จังหวัดลพบุรี และทำหนังสือฉบับลงวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2545 ยืนยันการยกเลิกอีกครั้งหนึ่งเมื่อได้รับการสอบสวนจากผู้คัดค้าน ต่อมาวันที่ 14กุมภาพันธ์ 2545 ผู้คัดค้านมีหนังสือแจ้งไปถึงผู้ร้องว่า ผู้ร้องไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง มีปัญหาต้องวินิจฉัยว่า การที่ผู้คัดค้านไม่รับสมัครผู้ร้องและไม่ประกาศชื่อผู้ร้องเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้งในเขตที่ 3 จังหวัดลพบุรี ชอบหรือไม่เห็นว่า ผู้ที่จะมีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งต้องเป็นสมาชิกพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่งเพียงพรรคเดียวตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยพุทธศักราช 2540 มาตรา 107(4) และผู้สมัครรับเลือกตั้งจะต้องยื่นหนังสือรับรองของหัวหน้าพรรคการเมืองว่าส่งผู้สมัครสมาชิกผู้นั้นเข้าสมัครรับเลือกตั้งตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2541มาตรา 31 วรรคสอง อีกด้วย เมื่อได้รับใบสมัครแล้ว ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้งต้องตรวจสอบหลักฐานการสมัครคุณสมบัติของผู้สมัครและสอบสวนว่าผู้สมัครมีสิทธิที่จะสมัครรับเลือกตั้งหรือไม่ ให้เสร็จสิ้นภายในเจ็ดวัน นับแต่วันปิดการรับสมัครตามความในมาตรา 32 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญดังกล่าว ดังนั้น แม้ผู้ร้องจะยื่นใบสมัครพร้อมกับหนังสือรับรองของหัวหน้าพรรคความหวังใหม่ครบถ้วนแล้วก็ตาม แต่ในระหว่างระยะเวลาการตรวจสอบหลักฐานการสมัคร ปรากฏว่าหัวหน้าพรรคความหวังใหม่ยืนยันขอยกเลิกหนังสือรับรองดังกล่าว ต้องถือว่าการสมัครรับเลือกตั้งของผู้ร้องขาดหลักฐานหนังสือรับรองของหัวหน้าพรรคการเมืองว่า ส่งผู้ร้องเข้าสมัครรับเลือกตั้ง ซึ่งมีผลเท่ากับผู้ร้องไม่อาจสมัครในนามของพรรคความหวังใหม่ได้ การที่ผู้คัดค้านไม่รับสมัครและไม่ประกาศชื่อผู้ร้องเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นการชอบด้วยกฎหมายแล้ว ที่ผู้ร้องอ้างว่าหนังสือขอยกเลิกการรับรองของหัวหน้าพรรคความหวังใหม่ เป็นหนังสือที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายและขัดต่อข้อบังคับของพรรคจึงไม่มีผลเป็นการยกเลิก หนังสือรับรองดังกล่าวนั้น เห็นว่าหัวหน้าพรรคการเมืองเป็นผู้แทนของพรรคการเมืองในกิจการอันเกี่ยวกับบุคคลภายนอกตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2541 มาตรา 20 วรรคสอง ดังนั้น หัวหน้าพรรคความหวังใหม่ย่อมมีอำนาจที่จะออกหนังสือและยืนยันการขอยกเลิกหนังสือรับรองดังกล่าวที่ผู้ร้องได้ยื่นไว้พร้อมกับใบสมัครได้ ส่วนที่ผู้ร้องอ้างว่าหนังสือดังกล่าวไม่ชอบด้วยข้อบังคับพรรค ก็ไม่ปรากฏว่าผู้ร้องในฐานะสมาชิกของพรรคการเมืองได้ดำเนินการขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540 มาตรา 47 วรรคสาม และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2541 แต่ประการใด คำร้องของผู้ร้องฟังไม่ขึ้น

อนึ่ง คดีนี้ผู้ร้องไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม ต้องคืนค่าธรรมเนียมศาลทั้งหมดให้แก่ผู้ร้อง”

จึงมีคำสั่งให้ยกคำร้อง และให้คืนค่าธรรมเนียมศาลทั้งหมดแก่ผู้ร้อง

Share