แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
ส. เป็นผู้เช่าซื้อรถยนต์คันเกิดเหตุมาจากบริษัท โจทก์ที่ 1 ได้รับโอนสิทธิการเช่าซื้อและรับมอบรถยนต์คันดังกล่าวมาจาก ส.โดยมีข้อตกลงระหว่างโจทก์ที่1กับส. ว่า หากโจทก์ที่ 1 ผ่อนชำระราคาเช่าซื้อในนามของ ส. ครบแล้ว บริษัทผู้ให้เช่าซื้อจะโอนทะเบียนรถยนต์ให้แก่ ส.ส. ก็จะโอนทะเบียนรถยนต์ให้โจทก์ที่ 1 โจทก์ที่ 1 จึงมีสิทธิครอบครองรถยนต์ตามสัญญาที่ทำไว้กับ ส. และมีอำนาจฟ้องเรียกค่าเสียหายจากผู้ทำละเมิดแก่รถยนต์คันนั้นได้
ย่อยาว
โจทก์ทั้งสองฟ้องว่า โจทก์ที่ 1 เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์รถยนต์หมายเลขทะเบียน น-3208 สมุทรปราการ จำเลยที่ 1 เป็นลูกจ้างของจำเลยที่ 2 และเป็นผู้ขับรถยนต์บรรทุกสิบล้อ หมายเลขทะเบียน70-0120 พิษณุโลก ซึ่งจำเลยที่ 2 เป็นผู้ครอบครอง จำเลยที่ 3ได้รับประกันภัยรถยนต์บรรทุกหมายเลขทะเบียน 70-0120 พิษณุโลกไว้ โจทก์ที่ 2 ได้ขับรถยนต์ของโจทก์ที่ 1 ดังกล่าวไปตามถนนสายลานกระบือ-ช่องลม ขณะเดียวกันจำเลยที่ 1 ขับรถยนต์บรรทุกหมายเลขทะเบียน 70-0120 พิษณุโลกจากบางระกำไปทางตลาดลานกระบือด้วยความประมาทชนรถโจทก์เสียหาย โจทก์ที่ 2 ได้รับบาดเจ็บสาหัสขอให้บังคับจำเลยทั้งสามร่วมกันใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ทั้งสองพร้อมด้วยดอกเบี้ย
จำเลยที่ 1 ขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา
จำเลยที่ 2 ที่ 3 ให้การว่า โจทก์ที่ 1 มิได้เป็นเจ้าของรถยนต์หมายเลขทะเบียน น-3208 สมุทรปราการ จึงไม่มีอำนาจฟ้องขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ 1 ถึงที่ 3 ร่วมกันรับผิดชำระเงินพร้อมด้วยดอกเบี้ยแก่โจทก์ทั้งสอง ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนจำเลยที่ 3 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “จำเลยที่ 3 ฎีกาว่า โจทก์ที่ 1 ไม่มีอำนาจฟ้อง เพราะโจทก์ที่ 1 ไม่ใช่เจ้าของกรรมสิทธิ์หรือผู้ทำสัญญาเช่าซื้อรถยนต์กระบะหมายเลขทะเบียน น-3208 สมุทรปราการกับบริษัทสยามกลการ จำกัด แต่นางสุชาดา กวยทอง เป็นผู้เช่าซื้อนั้น ได้ความจากนายสายัณห์ เหล็กเพชร์หุ้นส่วนผู้จัดการโจทก์ที่ 1 ว่า โจทก์ที่ 1 เป็นเจ้าของรถยนต์บรรทุกหมายเลขทะเบียน น-3208 สมุทรปราการ โดยซื้อมาจากนางสุชาดา เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2525 ราคา 190,000 บาทได้ชำระเงินให้นางสุชาดาไปแล้ว 50,000 บาท และโจทก์ที่ 1ตกลงว่าจะผ่อนชำระค่าเช่าซื้อในนามของนางสุชาดา ให้แก่บริษัทสยามกลการ จำกัด ผู้ให้เช่าซื้อต่อจนครบ ตามสัญญาซื้อขายและโอนสิทธิการเช่าซื้อรถยนต์เอกสารหมาย จ.2 เห็นว่าโจทก์ที่ 1ได้รับโอนสิทธิการเช่าซื้อและรับมอบรถยนต์ดังกล่าวมาจากนางสุชาดา ตามสัญญาเอกสารหมาย จ.2 ซึ่งมีข้อตกลงระหว่างโจทก์ที่ 1 กับนางสุชาดาด้วยว่า หากโจทก์ที่ 1 ผ่อนชำระค่าเช่าซื้อในนามของนางสุชาดาครบแล้ว บริษัทสยามกลการจำกัดผู้ให้เช่าซื้อจะโอนทะเบียนรถยนต์ให้แก่นางสุชาดา นางสุชาดาก็จะโอนทะเบียนรถยนต์ให้โจทก์ที่ 1 ดังนี้ โจทก์ที่ 1 จึงมีสิทธิครอบครองรถยนต์คันดังกล่าวตามสัญญาที่ทำไว้กับนางสุชาดาและมีอำนาจฟ้องเรียกค่าเสียหายจากผู้ทำละเมิดแก่รถยนต์คันดังกล่าวได้”
พิพากษายืน