คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 751/2529

แหล่งที่มา : สำนักงาน ส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

โจทก์ร่วมถูกจ. ใช้ไม้ตีที่ท้ายทอย1ทีเซถลาไปจำเลยใช้ไม้ตีที่ใบหน้าโจทก์ร่วม1ทีจากนั้นอ. และชายอีกคนหนึ่งเข้ารุมชกต่อยโจทก์ร่วมจนล้มลงเมื่ออ. พูดว่าพอแล้วบุคคลเหล่านั้นก็เลิกชกต่อยและพากันวิ่งหนีไปทางหลังโบสถ์เช่นนี้เป็นการกระทำที่ติดต่อกันในลักษณะที่ได้มีการตกลงกระทำการร่วมกันมาก่อนแล้วจำเลยจะต้องรับผิดในผลของการกระทำแต่ละคนร่วมกัน.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยกับพวกอีก 3 คน ได้ร่วมกันลักทรัพย์ของโจทก์ร่วมไปโดยทุจริต โดยร่วมกันใช้ไม้เป็นอาวุธตีทำร้ายและใช้มือชกต่อยประทุษร้ายโจทก์ร่วมจนได้รับบาดเจ็บสาหัส อันเป็นความผิดฐานปล้นทรัพย์ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340 วรรคสอง และวรรคสามและมาตรา 83 จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 297 และ 83 จำคุก 4 ปี ข้อนำสืบของจำเลยเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาอยู่บ้างลดโทษให้หนึ่งในสี่ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78คงจำคุกจำเลยมีกำหนด 3 ปี คำขออื่นให้ยกเสีย จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 295 ให้จำคุก 6 เดือน นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงตามที่นายทองจันทร์เบิกความว่า ขณะพยานเดินกลับจากวัด เลยร้านอาหารที่เกิดเหตุไปประมาณ 7 เมตร เห็น จ.ซึ่งเป็นคนรู้จักกันดีมาก่อนใช้ไม้ระแนงตีที่ท้ายทอยโจทก์ร่วม 1 ทีโจทก์ร่วมเซถลาไปข้างหน้าแต่ยังไม่ล้ม ทันใดนั้นจำเลยใช้ไม้ตีที่ใบหน้าของโจทก์ร่วม 1 ที จากนั้น อ. และชายอีกคนหนึ่งเข้ารุมชกต่อยโจทก์ร่วมจนล้มลง อ. พูดว่าพอแล้ว คนเหล่านั้นก็เลิกชกต่อยและพากันวิ่งหนีไปทางหลังโบสถ์วัดทองศาลางาม ศาลฎีกาเห็นว่า การที่ จ. และจำเลยใช้ไม้ตีโจทก์ร่วมคนละทีและมี อ. กับชายอีกคนหนึ่งเข้ารุมชกต่อยโจทก์ร่วม เป็นการกระทำที่ติดต่อกันในลักษณะที่ได้มีการตกลงกระทำการร่วมกันมาก่อนแล้ว จำเลยจะต้องรับผิดในผลของการกระทำแต่ละคนร่วมกัน เมื่อโจทก์ร่วมต้องรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล 7-8 วัน แล้วกลับไปรักษาตัวต่อที่บ้านอีกประมาณ 1 เดือน จึงไปทำงานได้ปกติประกอบกับบาดแผลที่โจทก์ร่วมได้รับมีที่ท้ายทอย ดั้งจมูกโลหิตไหลออกมาก แขนขวาท่อนล่างหัก ใบหน้าและคอช้ำบวม จึงฟังได้ว่าโจทก์ร่วมบาดเจ็บสาหัส จำเลยย่อมมีความผิดฐานทำร้ายร่างกายโจทก์ร่วมบาดเจ็บสาหัส…ฎีกาของโจทก์ฟังขึ้น พิพากษาแก้เป็นว่า ให้บังคับคดีไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น.

Share