คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4616/2529

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์ของจำเลยเมื่อวันที่ 3 มิถุนายน 2528 จำเลยจะต้องร้องอุทธรณ์คำสั่งไม่รับอุทธรณ์ภายใน 10 วัน และนำค่าฤชาธรรมเนียมทั้งปวงมาวางศาลและนำเงินมาชำระตามคำพิพากษา หรือหาประกันให้ไว้ต่อศาลภายในกำหนด 10 วันนับแต่วันที่ศาลมีคำสั่ง จำเลยยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งไม่รับอุทธรณ์ของศาลชั้นต้นเมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2528 แต่นำเงินตามคำพิพากษามาวางต่อศาลในวันที่ 26 มิถุนายน 2528 ซึ่งพ้นกำหนดเวลาให้ยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งแล้ว เป็นการฝ่าฝืนประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 234

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากจำเลยอุทธรณ์คำพิพากษาศาลชั้นต้นที่ให้จำเลยแพ้คดี
ศาลชั้นต้นสั่งอุทธรณ์ของจำเลยว่า อุทธรณ์ข้อ ๒, ข้อ ๓, ข้อ ๔ และข้อ ๘ เป็นอุทธรณ์ในปัญหาข้อกฎหมายให้รับอุทธรณ์ ส่วนอุทธรณ์ข้อ ๕ ข้อ ๖ และข้อ ๗ เป็นอุทธรณ์ข้อเท็จจริงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๒๔ วรรค ๒
จำเลยร้องอุทธรณ์คำสั่งไม่รับอุทธรณ์
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า ไม่ปรากฏว่าจำเลยนำเงินมาวางหรือหาประกันมาวางเพื่อใช้ค่าฤชาธรรมเนียมและหนี้ตามคำพิพากษาให้ฝ่ายโจทก์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๓๔ ให้ส่งศาลอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งว่า จำเลยไม่ได้นำเงินค่าธรรมเนียมและเงินที่จะต้องชำระตามคำพิพากษาหรือหาประกันให้ไว้ต่อศาลภายใน ๑๐ วัน ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๓๔ และไม่ได้ขอขยายระยะเวลาจึงไม่รับคำร้องอุทธรณ์ของจำเลย
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า จำเลยอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นเมื่อวันที่ ๒๘ พฤษภาคม ๒๕๒๘ ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์ข้อ ๕, ข้อ ๖ และข้อ ๗ ของจำเลยเมื่อวันที่ ๓ มิถุนายน ๒๕๒๘ จำเลยจะต้องร้องอุทธรณ์คำสั่งไม่รับอุทธรณ์ภายใน ๑๐ วัน และนำค่าฤชาธรรมเนียมทั้งปวงมาวางศาล และนำเงินมาชำระตามคำพิพากษาหรือหาประกันให้ไว้ต่อศาลภายในกำหนด ๑๐ วัน นับแต่วันที่ศาลมีคำสั่ง แต่จำเลยยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งไม่รับอุทธรณ์ของศาลชั้นต้น เมื่อวันที่ ๑๐ มิถุนายน ๒๕๒๘ โดยมิได้นำเงินค่าฤชาธรรมเนียมและเงินที่ต้องชำระตามคำพิพากษาหรือหาประกันให้ไว้ต่อศาล เป็นการฝ่าฝืนประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๓๔ ที่จำเลยฎีกาว่าจำเลยได้นำเงินตามคำพิพากษามาวางต่อศาลเมื่อวันที่ ๒๖ มิถุนายน ๒๕๒๘ แล้ว ก็เป็นการวางเงินเมื่อพ้นกำหนดเวลาให้ยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งไม่รับอุทธรณ์ ฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน

Share