คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 750/2508

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การกระทำที่จะเป็นผิดฐานปลอมเครื่องหมายการค้าตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 273 นั้นจะต้องได้ความว่าผู้นั้นได้กระทำการปลอมขึ้นเอง เพียงแต่มีบล๊อกแม่พิมพ์เป็นเครื่องมือทำไพ่ปลอมไว้ในครอบครองอันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติไพ่ พ.ศ.2486 มาตรา 11 เท่านั้น จึงหาผิดตามมาตรา 273 ด้วยไม่
ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 272(1) ต้องเป็นการกระทำเพื่อให้ประชาชนหลงเชื่อว่าเป็นสินค้าหรือการค้าของผู้อื่นด้วยแต่ฟ้องไม่ระบุองค์ความผิดดังกล่าว จึงลงโทษตามมาตรานี้ไม่ได้
จำเลยทำผิดก่อนใช้พระราชบัญญัติไพ่ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2505 ซึ่งมีโทษสูงกว่าจึงต้องใช้พระราชบัญญัติไพ่ พ.ศ.2486 ซึ่งใช้ขณะกระทำผิดและเป็นคุณบังคับแก่จำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 3 วรรคแรก.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า ก. จำเลยร่วมกันปลอมดวงตรารูปนกวายุภักษ์ของกรมสรรพาสามิตซึ่งได้จดทะเบียนเป็นเครื่องหมายการค้าแล้วโดยทำปลอมลงในแม่พิมพ์ไพ่และใช้พิมพ์ประทับในไพ่และพิมพ์ลงในกระดาษห่อไพ่ ข. จำเลยทำไพ่ชนิดต่าง ๆ โดยมิได้รับอนุญาตและมีไว้ในครอบครองเกิน 120 ใบ และ ค. จำเลยมีไว้ในครอบครองซึ่งแม่พิมพ์สำหรับพิมพ์ไพ่ 1 แท่น บล๊อกพิมพ์หินไพ่ผ่องไทยและไพ่สี่สีอย่างละ 1 อัน โดยไม่ได้รับอนุญาต ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 251, 252, 272, 273, 83 และพระราชบัญญัติไพ่ พ.ศ. 2486 มาตรา 5, 8, 11, 14, 16 ฯลฯ

จำเลยให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่า จำเลยที่ 1, 2 ผิดประมวลกฎหมายอาญามาตรา 272(1), 273 พระราชบัญญัติไพ่ พ.ศ. 2486 มาตรา 5, 8, 14 ลงบทหนักมาตรา 273 จำคุกคนละ 1 ปี 6 เดือน นอกนั้นยืน

จำเลยที่ 1, 2 ฎีกา

ศาลฎีกาฟังว่า จำเลยที่ 2 ผู้เดียวมีแม่พิมพ์และบล๊อกพิมพ์ไพ่กับไพ่ต่าง ๆ 140 สำรับ ของกลางที่จับได้จากที่แห่งหนึ่งจริงแต่ไม่พอฟังว่าจำเลยที่ 1, 2 ร่วมกันทำไพ่หรือพิมพ์ไพ่ชนิดต่าง ๆ ตามฟ้อง

และเห็นว่า การกระทำที่จะเป็นความผิดฐานปลอมเครื่องหมายการค้าของผู้อื่นซึ่งได้จดทะเบียนแล้ว จะต้องได้ความว่าผู้นั้นได้กระทำปลอมเครื่องหมายการค้านั้นขึ้นเอง แต่ทางพิจารณาไม่ได้ความว่าจำเลยทั้ง 2 ทำไพ่หรือพิมพ์ไพ่ซึ่งมีเครื่องหมายการค้าปลอมขึ้นเอง คงได้ความแต่เพียงว่าจำเลยที่ 2มีบล๊อกแม่พิมพ์อันเป็นเครื่องมือทำไพ่ปลอมไว้ในครอบครองอันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติไพ่ พ.ศ. 2486 มาตรา 11 เท่านั้น จำเลยทั้ง 2 หามีความผิดตามมาตรา 273 ด้วยไม่

ส่วนความผิดตามมาตรา 272(1) ต้องเป็นการกระทำเพื่อให้ประชาชนหลงเชื่อว่าเป็นสินค้าหรือการค้าของผู้อื่นด้วย แต่ฟ้องโจทก์หาได้ระบุองค์ความผิดดังกล่าวนี้ไม่ จึงลงโทษตามมาตราดังกล่าวไม่ได้

และฟังว่า จำเลยที่ 1, 2 ร่วมกันมีไพ่ที่มิใช่กรมสรรพสามิตทำซึ่งจับได้จากที่อีกแห่งหนึ่งไว้ในครอบครองเกิน 120 ใบ

และเห็นว่า จำเลยกระทำผิดก่อนใช้พระราชบัญญัติไพ่ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2505 ซึ่งมีอัตราโทษสูงกว่า จึงต้องใช้พระราชบัญญัติไพ่ พ.ศ. 2486 ซึ่งเป็นกฎหมายที่ใช้ขณะกระทำผิดและเป็นคุณมาใช้บังคับแก่จำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 3 วรรคแรก

พิพากษาแก้ว่า จำเลยทั้ง 2 ผิดพระราชบัญญัติไพ่ พ.ศ. 2486 โดยจำเลยที่ 1 ผิดมาตรา 8 จำเลยที่ 2 ผิดมาตรา 8 และ 11 ให้ลงโทษตามมาตรา 14 จำคุกคนละ 1 เดือน ปรับคนละหนึ่งพันบาทนอกนั้นยืน

Share