คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 747/2510

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

บทบัญญัติมาตรา 326 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ที่ว่า “บุคคลผู้ชำระหนี้ชอบที่จะได้รับใบเสร็จเป็นสำคัญจากผู้รับชำระหนี้ ฯลฯ” เป็นบทบัญญัติที่เพียงแต่ให้สิทธิ์แก่ผู้ชำระหนี้ในอันที่จะเรียกร้องให้ผู้รับชำระหนี้ทำการอย่างใดอย่างหนึ่งตามที่ระบุไว้ให้แก่ตนเท่านั้น มิได้หมายความเลยไปถึงว่า หากไม่มีหลักฐานเช่นที่บัญญัติไว้นั้นแล้ว ผู้ชำระหนี้จะพิสูจน์ถึงการชำระหนี้ไม่ได้
เมื่อการชำระหนี้ไม่มีกฎหมายบังคับให้ต้องมีพยานเอกสารมาแสดง ศาลก็ย่อมรับฟังคำพยานบุคคลที่ผู้ชำระหนี้นำสืบถึงการชำระหนี้นั้นได้ ไม่ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 94
เจ้าหนี้ตามคำพิพากษามอบอำนาจให้ภริยารับเงินจากศาลแทนตัวได้ ลูกหนี้ตามคำพิพากษาชำระหนี้นั้นต่อภริยาเจ้าหนี้ซึ่งเป็นผู้รับมอบอำนาจจากเจ้าหนี้ ถือว่าเป็นการชำระหนี้แก่บุคคลผู้มีอำนาจรับชำระหนี้แทนผู้เป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษา จึงชอบด้วยบทบัญญัติประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 315

ย่อยาว

คดีนี้เดิมศาลพิพากษาให้จำเลยใช้เงินแก่โจทก์ จำเลยไม่ชำระ โจทก์นำเจ้าพนักงานยึดทรัพย์จำเลย ก่อนวันขายทอดตลาดทรัพย์ของจำเลย ทนายโจทก์ยื่นคำร้องขอถอนการยึดทรัพย์โดยว่าจำเลยนำเงินชำระให้โจทก์ครบถ้วนแล้ว ศาลสั่งถอนการยึด
ต่อมาอีก ๕ ปีเศษ โจทก์ยื่นคำขอให้ยึดทรัพย์จำเลยอีกโดยว่าระหว่างยึดทรัพย์ครั้งก่อน โจทก์ต้องจำคุก โจทก์ไม่ได้รับเงิน การชำระหนี้ต่อทนายโจทก์ไม่ชอบเพราะผิดตัวเจ้าหนี้
ศาลชั้นต้นไต่สวนแล้วฟังว่า จำเลยได้ชำระเงินให้ภริยาโจทก์แล้ว ให้ยกคำขอ
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาฟังว่าจำเลยได้ชำระหนี้แก่ภริยาโจทก์แล้ว และเห็นว่าบทบัญญัติมาตรา ๓๒๖ แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ที่ว่า “บุคคลผู้ชำระหนี้ชอบที่จะได้รับใบเสร็จเป็นสำคัญจากผู้รับชำระหนี้ ฯลฯ” เป็นบทบัญญัติที่เพียงแต่ให้สิทธิ์แก่ผู้ชำระหนี้ในอันที่จะเรียกร้องให้ผู้รับชำระหนี้ทำการอย่างใดอย่างหนึ่งตามที่ระบุไว้ให้แก่ตนเท่านั้น มิได้มีความหมายเลยไปถึงว่า หากไม่มีหลักฐานเช่นที่บัญญัติไว้นั้นแล้ว ผู้ชำระหนี้จะพิสูจน์ถึงการชำระหนี้ไม่ได้เสียเลย และเมื่อการชำระหนี้ในคดีนี้ไม่มีกฎหมายบังคับให้ต้องมีพยานเอกสารมาแสดง ศาลก็ย่อมรับฟังคำพยานบุคคลที่จำเลยนำสืบถึงการชำระหนี้ได้ ไม่ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๙๔ และศาลเห็นว่าโจทก์มอบอำนาจให้ภริยาโจทก์รับเงินไปจากศาลแทนตัวโจทก์ด้วย การมอบอำนาจให้รับเงินแทนโจทก์นี้ คือมอบอำนาจให้รับเงินที่ชำระหนี้ตามคำพิพากษานั่นเอง เมื่อจำเลยชำระหนี้ให้ภริยาโจทก์ ผู้รับมอบอำนาจจากโจทก์เรียกได้ว่าเป็นการชำระหนี้แก่บุคคลผู้มีอำนาจรับชำระแทนโจทก์ผู้เป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษา จึงชอบด้วยนัยมาตรา ๓๑๕ แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
พิพากษายืน.

Share