แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ผู้กระทำจะมีความผิดฐานใช้เอกสารปลอมต่อเมื่อได้รู้ข้อเท็จจริงว่าเอกสารนั้นปลอม เมื่อปรากฏว่าจำเลยมิได้รู้ว่าเอกสารดังกล่าวปลอม การที่จำเลยใช้เอกสารนั้นย่อมขาดเจตนาในการกระทำผิด จึงไม่เป็นความผิดฐานใช้เอกสารปลอม
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสองตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 32,83, 264, 268 และริบของกลาง
จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 264, 268, 83 แต่การใช้เอกสารปลอมเกิดจากจำเลยทั้งสองร่วมกันทำเอกสารปลอม จึงให้ลงโทษข้อหาใช้เอกสารปลอมกระทงเดียวตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 268 วรรคท้าย จำคุกคนละ 6 เดือน ลดโทษให้หนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุกจำเลยที่ 1 มีกำหนด 4 เดือน
จำเลยทั้งสองอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง แต่ให้ริบของกลาง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงรับฟังไม่ได้ว่า จำเลยทั้งสองเป็นผู้ปลอมเอกสารรายงานของผู้สอบบัญชี และรู้ว่าเอกสารดังกล่าวเป็นเอกสารปลอมส่วนข้อหาฐานใช้เอกสารปลอมนั้นผู้กระทำจะมีความผิดต่อเมื่อได้รู้ข้อเท็จจริงว่าเอกสารนั้นปลอม เมื่อได้วินิจฉัยมาแล้วว่าจำเลยทั้งสองมิได้รู้ว่าเอกสารดังกล่าวปลอม การที่จำเลยทั้งสองใช้เอกสารนั้นย่อมขาดเจตนาในการกระทำผิด จึงไม่เป็นความผิดฐานใช้เอกสารปลอม
พิพากษายืน