คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6158/2548

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์บรรยายฟ้องว่า ศ. ถึงแก่ความตายเมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2546 แทนที่จะเป็นวันที่ 27 กันยายน 2546 โดยโจทก์ได้แนบเอกสารเกี่ยวกับการตายของ ศ. ที่ระบุว่า ศ. ถึงแก่ความตายเมื่อวันที่ 27 กันยายน 2546 มาท้ายคำฟ้องด้วย เห็นได้ว่า การพิมพ์ฟ้องของโจทก์ผิดพลาดคลาดเคลื่อนจากเจตนา ถือได้ว่าเป็นการพิมพ์ผิดพลาดเล็กน้อยหรือผิดหลงเล็กน้อย โจทก์ย่อมยื่นคำร้องขอแก้ไขคำฟ้องว่า ศ. ถึงแก่ความตายเมื่อวันที่ 27 กันยายน 2546 ได้ ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 180 ประกอบ พ.ร.บ. จัดตั้งศาลล้มละลายและวิธีพิจารณาคดีล้มละลาย พ.ศ. 2542 มาตรา 14

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้มีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของจำเลยที่ 1 เด็ดขาดและพิพากษาให้ล้มละลาย กับขอให้มีคำพิพากษาให้จัดการทรัพย์มรดกของนายศุภเดชลูกหนี้ที่ตายตาม พ.ร.บ. ล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 84
จำเลยที่ 1 และที่ 2 ไม่ยื่นคำให้การ และจำเลยที่ 1 ขาดนัดพิจารณา
จำเลยที่ 3 ให้การขอให้ยกฟ้อง
ในวันนัดพิจารณาสืบพยานโจทก์และจำเลย โจทก์ยื่นคำร้องขอแก้ไขคำฟ้องว่านายศุภเดชถึงแก่ความตายเมื่อวันที่ 27 กันยายน 2546 ศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งว่า “จำเลยที่ 3 ยื่นคำให้การแล้วไม่อนุญาตให้แก้ฟ้อง ยกคำร้อง ค่าคำร้องเป็นพับ” และศาลล้มละลายกลางพิจารณาแล้วเห็นว่า ตามคำฟ้องระบุว่านายศุภเดชถึงแก่ความตายเมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2546 โจทก์ยื่นฟ้องวันที่ 27 กันยายน 2547 เกินกำหนด 1 ปี นับแต่นายศุภเดชถึงแก่ความตาย จึงให้เพิกถอนคำสั่งเดิมเป็นไม่รับฟ้องจำเลยที่ 2 และที่ 3 แล้วศาลล้มละลายกลางสืบพยานโจทก์ไปฝ่ายเดียวและมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของจำเลยที่ 1 เด็ดขาดตาม พ.ร.บ. ล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 14 และให้จำเลยที่ 1 ใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์โดยหักจากกองทรัพย์สินของจำเลยที่ 1 เฉพาะค่าทนายความให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์กำหนดตามที่เห็นสมควร
โจทก์อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีล้มละลายวินิจฉัยว่า มีปัญหาวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของโจทก์ว่า คำสั่งศาลล้มละลายกลางที่ไม่อนุญาตให้โจทก์แก้ไขคำฟ้องและเพิกถอนคำสั่งเดิมเป็นไม่รับฟ้องจำเลยที่ 2 และที่ 3 ชอบหรือไม่ การที่โจทก์บรรยายฟ้องว่านายศุภเดชถึงแก่ความตายเมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2546 แทนที่จะเป็นวันที่ 27 กันยายน 2546 โดยโจทก์ได้แนบเอกสารเกี่ยวกับการตายของนายศุภเดชที่ระบุว่าถึงแก่ความตายเมื่อวันที่ 27 กันยายน 2546 มาด้วยนั้น เห็นได้ว่าการพิมพ์ฟ้องของโจทก์ผิดพลาดคลาดเคลื่อนจากเจตนา ถือได้ว่าเป็นการพิมพ์ผิดพลาดเล็กน้อยหรือผิดหลงเล็กน้อยซึ่งโจทก์ย่อมยื่นคำร้องขอแก้ไขคำฟ้องได้ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 180 ประกอบ พ.ร.บ. จัดตั้งศาลล้มละลายและวิธีพิจารณาคดีล้มละลาย พ.ศ. 2542 มาตรา 14 ที่ศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งไม่อนุญาตให้โจทก์แก้ไขคำฟ้องและเพิกถอนคำสั่งเดิมเป็นไม่รับฟ้องจำเลยที่ 2 และที่ 3 จึงไม่ชอบ
พิพากษายกคำสั่งศาลล้มละลายกลางที่ไม่อนุญาตให้โจทก์แก้ไขคำฟ้องกับคำสั่งไม่รับฟ้องจำเลยที่ 2 และที่ 3 ให้รับฟ้องโจทก์ในส่วนของจำเลยที่ 2 และที่ 3 ไว้พิจารณาและอนุญาตให้โจทก์แก้ไขคำฟ้องได้ตามขอ ให้ศาลล้มละลายกลางดำเนินกระบวนพิจารณาแล้วมีคำพิพากษาต่อไปตามรูปคดี ค่าฤชาธรรมเนียมในชั้นนี้ให้เป็นพับ.

Share